Business

สนมั๊ย! รถเก่าแลกรถใหม่ ชง ศบศ.ไฟเขียว 2 ธันวาคมนี้ เปิดเงื่อนไขเข้าร่วมโครงการ

รถเก่าแลกรถใหม่ ชง ศบศ. เคาะ 2 ธันวาคมนี้ ชัดเจน รมว.พลังงานระบุชัด รถใหม่เข้าโครงการ ต้องผลิตในประเทศ และรถอีวี ส่วนรถเก่า ต้องมีอายุการใช้งาน 12 ปีขึ้นไป

เป็นประเด็นที่น่าจับตามองอย่างมาก สำหรับโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ โดยล่าสุด กระทรวงพลังงาน เตรียมนำโครงการ รถเก่าแลกรถใหม่ ชง ศบศ. พิจารณาในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ภายใต้เป้าหมายเพื่อ ลดปริมาณมลพิษทางอากาศ และลดปัญหาฝุ่น PM2.5

รถเก่าแลกรถใหม่ ชง ศบศ.

ล่าสุด นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) วันที่ 2 ธ.ค.2563 จะมีการพิจารณานโยบาย สนับสนุนการเปลี่ยนรถยนต์เก่า เป็นรถยนต์ใหม่ หรือ โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ ซึ่ง ศบศ.มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อเสนอเพิ่มเติม

สำหรับข้อเสนอเบื้องต้นที่ได้เห็นชอบตรงกันคือ เงื่อนไขว่ารถใหม่ ที่จะเข้าโครงการดังกล่าว ต้องเป็นรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ และรถยนต์ที่เป็นรถไฟฟ้า (EV) พร้อมตั้งเป้าเปลี่ยนรถเก่าเป็นรถใหม่ 1 แสนคัน

การวางแนวทางโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ ยังมุ่งสนับสนุนให้ประเทศไทย เป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน และของโลก รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศเป็น 50% ภายในปี 2573 และ 85% ในปี 2578 รวมทั้งวางเป้าหมายระยะยาว เปลี่ยนเป็น 100% ในปี 2583

ด้านนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นโยบายรถเก่าแลกรถใหม่ เป็นแนวคิดรัฐบาล ที่จะกระตุ้นกำลังซื้อรถใหม่ รวมถึงรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และ รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งกำลังพิจารณากรอบอายุรถเก่าที่อาจอยู่ที่ 10-15 ปี โดยต้องดูปริมาณรถยนต์เก่า ว่ามีจำนวนเท่าใด จึงจะกำหนดอายุรถเก่า ที่เข้าโครงการได้

รถยนต์

สำหรับโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ เป็นข้อเสนอของคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ และเสนอแนะมาตรการบริหารเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนในระยะปานกลางและระยะยาว ที่มีนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร เป็นประธาน ในที่ประชุม ศบศ. เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยนำเสนอรวม 7 โครงการ ได้แก่

1. โครงการรถแลกแจกแถม หรือ รถเก่าแลกรถใหม่ 100,000 คัน ด้วยการนำรถอายุ 12 ปีขึ้นไป มาแลกซื้อรถใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ECO Car หรือ XEV เช่น รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด หรือ HEV, รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด หรือรวมไปถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ หรือ BEV

ทั้งนี้ จะจูงใจด้วยการเพิ่มมูลค่าให้รถเก่า 100,000 คัน และคันละไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อรถใหม่ โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อรถใหม่ ไปหักภาษีเงินได้ รวมไม่เกิน 100,000 บาทต่อคัน

2. โครงการจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทยชนะ ด้วยการสนับสนุนการผลิตและใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้า ระบบ SWAP ในประเทศ โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนการใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้า 100,000 คันต่อปี

3. โครงการจัดหารถโดยสารเพื่อประชาชนของ ขสมก.โดยปรับเปลี่ยนรถประจำทางของ ขสมก.มาเช่ารถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้า (EV) 2,511 คัน โดยเช่าจากผู้ผลิตในประเทศก่อน

25NOV โครงการรถเก่าแลกรถใหม่

4. ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ สนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า

5. ปรับปรุงกฎระเบียบให้รองรับการลงทุนสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า และเร่งรัดแผนการวางโครงข่าย Smart Grid เพื่อรองรับการสร้างสถานีอัดประจุทุกระยะ 70 กิโลเมตร ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้รถ BEV มากยิ่งขึ้น รวมทั้งกำหนดค่าไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าในอัตราคงที่ 2.6369 บาทต่อหน่วย

6. โครงการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ เปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการส่งเสริมให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ

7. บริหารจัดการเงินทุน เพื่อการกำจัดซาก และส่งเสริมการผลิตยานพาหนะไฟฟ้า โดยการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยและทดสอบยานยนต์ไฟฟ้าและยางล้อแห่งชาติ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo