สมาคมค้าทองคำ รายงาน ราคาทองวันนี้ 24 พ.ย. 2563 ดิ่งลง 500 บาท จากราคาปิดเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.)
ราคาทองวันนี้ 24 พ.ย. ล่าสุด ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มีราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 26,250 บาท ขายออกที่ ราคาบาทละ 26,350 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่ ราคาบาทละ 25,772 บาท และขายออก ที่บาทละ 26,850 บาท
ขณะที่ ราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot ล่าสุดอยู่ที่ 1,828.50 ดอลลาร์ ต่อออนซ์
บทวิเคราะห์ของ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG Bullion and Futures Co., Ltd.) ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดดิ่งลงถึง 34.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะพยายามทรงตัวรักษาระดับเหนือ 1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำดิ่งลงแรงในทันทีที่ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐ “เพิ่มขึ้นเกินคาด” สู่ระดับ 56.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 74 เดือน
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น “เพิ่มขึ้นเกินคาดเช่นกัน” สู่ระดับ 57.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 68 เดือน ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 92.016 สู่ระดับ 92.51 จนเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำ
นอกจากนี้ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงกดดันเพิ่ม จากความคืบหน้าเชิงบวกเกี่ยวกับวัคซีนต้าน COVID-19 หลังจากแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยวานนี้ว่า วัคซีนซึ่งทางบริษัทพัฒนาร่วมกับม.อ็อกซ์ฟอร์ด “มีประสิทธิภาพ 90% ในการป้องกันไวรัส COVID-19”
แรงขายที่เกิดจากปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาร่วงลงแรงจนหลุดแนวรับสำคัญ ซึ่งกระตุ้นแรงขายทางเทคนิคทั้ง Sell stop และ Stop loss เพิ่มเติม จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาทองคำดิ่งลงถึง 46 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,8761.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับ 1,830.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดใรรอบ 4 เดือน หรือ นับตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -7.00 ตัน
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้านโดย S&P/CS, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์
แนะนำ : เน้นการซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้น เปิดสถานะขายในบริเวณ 1,840-1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืน 1,863 ดอลลาร์ต่อออนซ์) พิจารณาซื้อคืนเพื่อทำกำไรช่วงสั้นหากไม่หลุดแนวรับ 1,821-1,805 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองคํา Spot ปรับลงแรงเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยรับข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ทองในประเทศร่วงหนักในรอบ 4 เดือน รูปพรรณหลุด 27,000 บาท
ข่าวความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ล่าสุดมีการแถลงว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัส 90% ซึ่งก่อนหน้านี้ระบุว่า ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ 70% ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวมีจุดเด่นคือราคาถูกกว่า การเก็บรักษาได้ง่ายกว่า และการกระจายได้อย่างทั่วถึงเมื่อเทียบกับวัคซีนของไฟเซอร์และ Moderna
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเดือนพ.ย. ดีดตัวสู่ระดับสูงสุดในรอบ 68 เดือน เป็นอีกปัจจัยฉุดแรงเทขายทองคำในตลาด
รายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในคืนวันนี้ ติดตามการประดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. ตัวเลขคาดการณ์จะลดลงสู่ระดับ 97.7 ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้ง ความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และการออกมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ประกาศราคาทองคําในประเทศเปิดตลาดปรับลงแรง 500 บาท แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ส่งผลให้ราคาขายออกทองคำรูปพรรณหลุดระดับ 27,000 บาท
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าจะเป็นขาลง หลังจากราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,848-1,850 ดอลลาร์ ทำให้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงต่อ โดยจะมีแนวรับแรกที่บริเวณ 1,820 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปบริเวณ 1,800 ดอลลาร์
ในขณะที่แนวต้าน 1,850 ดอลลาร์ จะเป็นแนวต้านแรก และแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 1,875 ดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ราคาทองคำจะไปทางไหน? หลังเลือกตั้งสหรัฐ 3 พ.ย.นี้
- เปิดสถิติราคาทองคำช่วงเลือกตั้งสหรัฐ คาด ‘ไบเดน’ ชนะทองไปต่อ!
- เปิดกลยุทธ์ลงทุนทอง YLG ชี้หากแตะ 2,100 ดอลลาร์มีโอกาสพุ่งยาว!
