COVID-19

‘ไทย’ ร่วงเบอร์ 1 แหล่งท่องเที่ยวสุดนิยมชาวจีน ‘ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้’ ผงาด

ผลสำรวจชี้ ไทยเสียตำแหน่ง แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในต่างแดน ของชาวจีนไปแล้ว ขณะที่ 2 ประเทศเพื่อนบ้านแดนมังกร อย่าง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ผงาดขึ้นมาแทนที่ 

นายปาราช จาอิน นักวิเคราะห์จากเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ เขียนไว้ในรายงานว่า ในช่วงเวลาที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้ ไทยเสียตำแหน่ง แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในต่างแดนของชาวจีน โดยนอกจากฮ่องกง และมาเก๊าแล้ว ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ได้กลายมาเป็น 2 จุดหมายปลายทางการเดินทางข้ามแดน ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวจีน

สถานการณ์ดังกล่าว ตอกย้ำมุมมองที่ว่า การเดินทางระยะสั้น จะฟื้นตัวเร็วกว่า การเดินทางระยะยาวข้ามประเทศ

ไทยเสียตำแหน่ง

ผลสำรวจข้างต้น ซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ยังพบว่า ผู้คนพากันจองเที่ยวบินล่วงหน้า ด้วยระยะเวลาที่นานกว่าในช่วงก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน ที่มีมากกว่าการเดินทางเพื่อธุรกิจ

ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ บอกด้วยว่า พวกเขาต้องการรออย่างน้อย 6 เดือน หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการกักตัวเพื่อควบคุมโรคแล้ว ถึงจะเดินทางไปต่างประเทศ และวัคซีน ถือเป็นปัจจัยหลักที่จะเพิ่มความมั่นใจให้กับการเดินทาง

ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า ชาวจีน มีความมั่นใจมากขึ้น เกี่ยวกับการเดินทางภายในประเทศ เพราะความสำเร็จของจีน ในการควบคุมการระบาดของไวรัส

เสนอเปิดประเทศ รับ ‘จีน 22 มณฑล’ ปลอดโควิด เข้าไทย

ทั้งนี้ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายวิชิต ประกอบโกศล นายก สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตณะกรรมการแอตต้า ได้เข้าพบ และยื่นหนังสือต่อ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อ เสนอเปิดประเทศ รับจีน 22 มณฑลปลอดโควิด เข้าไทย

แอตต้ามั่นใจว่า  จะนำรายได้จากการท่องเที่ยว เข้ามาช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศ ที่กำลังถดถอย และสร้างงานให้คนไทยเป็นจำนวนมาก โดยไม่สร้างความเสียหาย ให้ประเทศไทบ เนื่องจากเป็นกลุ่มความเสี่ยงต่ำ พร้อมเสนอมาตรการควบคุมป้องกัน และ ดูแล ตามมาตรฐานความปลอดภัย ในการป้องกัน การแพร่ระบาดของ โควิด-19

พร้อมกันนี้ ประเมินว่า หากไฟเขียว ให้นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มดังกล่าว สามารถเข้ามาท่องเที่ยวไทยได้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่น้อยกว่า 3 แสนคนต่อเดือน สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นล้านบาทต่อเดือน

สำหรับ 22 มณฑลในประเทศจีน ที่ปลอดโควิด 150 วัน ประกอบด้วย กวางตุ้ง เจ้อเจียง อานฮุย ฉงชิ่ง เหอเป่ย์ หูเป่ย์ หูหนาน ฝูเจี้ยน เจียงซี ไหหนาน ยูนนาน เจียงซู ซื่อชวน เหอหนาน และอื่นๆ

ที่ผ่านมา แอตต้าได้รับการเรียกร้อง จากสมาชิก และบริษัทนำเที่ยวจากประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศ ที่ปลอดภัยจากโควิดอย่างสูงเทียบเท่าประเทศไทย โดยปลอดโควิดกว่า 150 วัน จึงเข้าพบและหารือกับ รมว.ท่องเที่ยวฯ เพื่อให้สามารถนำนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้  เข้ามาท่องเที่ยว ในประเทศไทย

ไทยเสียตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน แอตต้าได้เสนอ 7 มาตรการ ควบคุมป้องกัน และ ดูแลนักท่องเที่ยว ดังนี้

  • จำกัดการเดินทางเข้ามา โดยทางเครื่องบินเท่านั้น
  • จำกัดเข้ามา โดยต้องผ่านบริษัททัวร์
  • ต้องได้รับการตรวจโควิด-19 ก่อนเข้าประเทศไทย
  • จำกัดพื้นที่ท่องเที่ยว ตามที่กำหนด
  • นักท่องเที่ยวออกนอกสถานที่ จะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
  • โรงแรม ร้านค้า และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ต้องได้มาตรฐานด้านสุขอนามัย SHA
  • สามารถติดตามตัวนักท่องเที่ยวได้ตลอดเวลา ด้วยแอปพลิเคชัน และมัคคุเทศก์ที่ดูแล
  • ทำประกัน โควิด-19 วงเงิน 1 แสนดอลลาร์ เหมือนนักท่องเที่ยววีซ่าพิเศษ หรือ STA ที่เข้ามาก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มปลอดภัยสูงนี้ ส่วนใหญ่อยู่ท่องเที่ยว ไม่เกิน 10 วัน จึงขอไม่กักตัว 14 วัน แต่ยินดีให้ความร่วมมือ กับมาตรการป้องกันดูแลของไทย อย่างเข้มงวด

นายวิชิต กล่าวว่า ที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ต้นปี จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศไทยถดถอย บริษัทภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ต่องปิดกิจการ และเลิกจ้างพนักงาน เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ แอตต้าประเมินว่า หากในไตรมาส 1 ปี 2564 ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา คาดว่าจะมีคนตกงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคน ซึ่งจะเป็นการสร้างภาระให้แก่รัฐบาลอีกมาก ในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo