“ท็อป โกลฟ” ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่สุดของโลก สัญชาติมาเลย์ สั่งปิดโรงงาน 28 แห่งในเมืองกลัง รัฐสลังงอร์ชั่วคราว หลังตรวจพบพนักงานมากกว่า 2,000 คน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
นายอิสมาอิล ซาบริ ยาคอบ รัฐมนตรีอาวุโสมาเลเซีย เปิดเผยว่า การปิดโรงงานดังกล่าว จะทำให้สามารถดำเนินการตรวจหาเชื้อ และกักโรคพนักงาน ของบริษัทผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่สุดของโลก รายนี้ได้
“ผมรับทราบมาว่า เฉพาะวันนี้เพียงวันเดียว มีคนงานตรวจพบการติดเชื้อ 1,067 คน ซึ่งตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้การประชุมในวันนี้ จึงได้ข้อตกลงว่าจะปิดโรงงาน 28 แห่งของท็อป โกลฟ ในเมืองกลังเป็นการชั่วคราว เพื่อเร่งตรวจหาเชื้อและกักตัวคนงานของโรงงาน”
ทางด้านนายนูร์ ฮิชาม อับดุลลาห์ อธิบดีกรมสาธารณสุขมาเลเซีย แถลงว่า ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อในบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโรงงานของท็อป โกลฟ ทั้งหมด 5,767 คน พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 2,524 ราย ส่วนใหญ๋หรือ 2,360 คน ไม่ใช่พลเมืองมาเลเซีย โดยเป็นชาวมาเลเซียเพียง 164 คนเท่านั้น
ในจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดนี้ มีอยู่ 2,453 ราย ที่เป็นคนงานในโรงงาน ส่วนอีก 71 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด รวมถึง เด็กวัย 2 ขวบ
ขณะนี้ ที่พักคนงานของโรงงานท็อป โกลฟ ในเมืองกลัง และพื้นที่โดยรอบ ถูกประกาศเป็นเขตควบคุมโรค จนถึงสิ้นเดือนนี้ ซึ่งมาตรการภายใต้การควบคุมโรคนี้ รวมถึง การห้ามบุคคลผ่านเข้า-ออกในระยะเวลา 14 วัน
ปัจจุบัน มาเลเซียมียอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด 56,659 ราย และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดที่ 337 ราย โดยที่รัฐสลังงอร์ เคยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันเดียวสูงสุดที่ 1,203 คน
ทั้งนี้ ท็อป โกลฟ เป็นผู้ผลิตถุงมือยางแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง รายใหญ่สุดของโลก ด้วยยอดการผลิตราว 220 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีนี้ จนถึงปัจจุบัน มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวมาแล้วอย่างน้อย 6 ครั้ง ผลจากความต้องการถุงมือยางที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ในช่วงที่โควิดกำลังระบาดไปทั่วโลก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นิวยอร์กจับตา ‘เทศกาลวันหยุด’ คาดดันยอดป่วยโควิด-19 พุ่งถึง ม.ค. ปีหน้า
- ‘มองโกเลียใน’ เล็งตรวจโควิด-19 ทั้งเมือง หลังจีนเจอติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม
- ‘สี จิ้นผิง’ ชวน G20 ตั้ง ‘กำแพงกันภัย’ รับมือโควิด-19 ฟื้นฟูเศรษฐกิจ