World News

นิวยอร์กจับตา ‘เทศกาลวันหยุด’ คาดดันยอดป่วยโควิด-19 พุ่งถึง ม.ค. ปีหน้า

นิวยอร์ก จับตา “เทศกาลวันหยุด” คาดดันยอดป่วย โควิด-19 พุ่งสูงตั้งแต่ตอนนี้ถึง ม.ค. ปีหน้า หลายพื้นที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นโซนสีแดง

เมื่อวานนี้ (22 พ.ย. 63) แอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กของสหรัฐ ประกาศเตือนว่า รัฐ นิวยอร์ก อาจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลานี้จนถึงเดือนมกราคม 2564 เนื่องจาก เทศกาลวันหยุด ต่างๆ กำลังใกล้เข้ามา และประชาชนจำนวนมากมีแนวโน้มจะออกเดินทางและรวมตัวเฉลิมฉลองกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่กระตุ้นให้เกิดการระบาดใหญ่

“ตั้งแต่ช่วงเวลานี้จนถึงเดือนมกราคม เราจะมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกันมากขึ้น และผมเชื่อว่าอัตราผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจะเยอะและรวดเร็วขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับพวกคุณ” คัวโมแถลงข่าวในเมืองอัลบานี “คุณสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่คุณทำและวิธีปฏิบัติตัวในชุมชนได้ หลายชุมชนกำลังจะถูกจัดเป็นพื้นที่สีเหลือง หรือกลายเป็นพื้นที่สีแดง หรือสีส้มในสัปดาห์นี้ และขณะที่วัคซีนถูกคาดการณ์ว่าจะเริ่มใช้งานได้ในเดือนธันวาคมหรือเดือนมกราคมนั้น เราไม่ควรปล่อยให้การ์ดตก”

คัวโมย้ำว่า วัคซีน โควิด-19 จะถูกแจกจ่ายแก่กลุ่มประชากรที่มีความจำเป็นสูงเป็นลำดับแรก แต่ก่อนจะถูกแจกจ่ายเป็นวงกว้างภายในเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ดังนั้นมีความเสี่ยงจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 6 เดือน พร้อมเสริมว่า “ตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นหลังเทศกาลวันหยุดเป็นเรื่องปกติและชาวนิวยอร์กได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีความอดทน แต่เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการต่อไปเมื่อเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าและเทศกาลวันหยุดอื่นๆ ใกล้เข้ามา”

โควิด-19 นิวยอร์ก

ขณะเดียวกันคัวโมประกาศว่า อัตราผลตรวจโรค โควิด-19 เป็นบวกในพื้นที่จับตา “กลุ่มก้อนการติดเชื้อขนาดเล็ก” (micro-cluster) ของรัฐ ซึ่งเผชิญกับการระบาดใหญ่รุนแรงที่สุด อยู่ที่ 4.39% ในวันเสาร์ (21 พ.ย. 63) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 4.34% ในวันก่อนหน้า

ขณะที่อัตราผลตรวจโรคเป็นบวกทั่วรัฐ ซึ่งไม่นับรวมพื้นที่จับตาข้างต้น อยู่ที่ 2.29% ลดลงจาก 2.49% ในวันศุกร์ (20 พ.ย. 63) โดยนิวยอร์กได้ดำเนินการตรวจโรคให้ประชาชน 196,608 ครั้ง เมื่อวันเสาร์ (21 พ.ย. 63) ในจำนวนนี้มีผลตรวจเป็นบวก 5,391 ครั้ง หรือ 2.74% ของทั้งหมด ลดลงจากวันศุกร์ (20 พ.ย. 63) ซึ่งอยู่ที่ 2.87%

คัวโมเสริมว่า ขณะนี้นิวยอร์กเป็นรัฐที่มีอัตราผลตรวจโรคเป็นบวกต่ำที่สุดเป็นอันดับ 4 โดยอัตราการติดเชื้อเฉลี่ย 7 วันอยู่ที่ 2.90% รองจากรัฐเวอร์มอนต์ ฮาวาย และเมน

ทั้งนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่านิวยอร์กตรวจพบผู้เสียชีวิตจากโรค โควิด-19 รวมอยู่ที่ 34,319 ราย ซึ่งสูงที่สุดในประเทศ เมื่อนับถึงเย็นวานนี้ ขณะทั่วประเทศตรวจพบผู้ป่วยมากกว่า 12.2 ล้านราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิตมากกว่า 256,000 ราย โดยยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านรายในเวลาเพียง 6 วัน แตะที่ 11 ล้านรายในวันที่ 15 พฤศจิกายน

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo