Finance

เงินนอกทะลัก เดือนเดียวกว่า 7 หมื่นล้าน ‘บาทแข็ง’ รอบ 10 เดือน หุ้นพุ่งเฉียด 200 จุด

เงินลงทุนต่างชาติ ทะลัก เข้าซื้อพันธบัตรและหุ้นกว่า 70,000 ล้านบาท ในเดือนพ.ย. ดันค่าเงินบาทแข็งค่า ในรอบกว่า 10 เดือน จากผลการเลือกตั้งสหรัฐและข่าวการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ใกล้สำเร็จ

กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าไทยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 เดือน จากก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติมีการปรับพอร์ตการลงทุนทั่วโลกจากความเสี่ยง ทั้งเรื่องผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งสหรัฐ ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าหาก  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  ชนะการเลือกตั้งจะทำให้สงครามการค้ารุนแรงขึ้น

แต่หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาอย่างเป็นทางการว่านายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต มีชัยชนะในการลือกตั้ง ทำให้ความกังวลในประเด็นสงครามการค้าคลี่คลายลง ในช่วงเดียวกับที่มีข่าวการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 มีความคืบหน้าจากบริษัทยาหลายแห่ง ทำให้เกิดความหวังว่าการค้าการลงทุนจะกลับเข้าสู่ปกติ ทั้งกฏกติกาและผลกระทบจากโควิด-19

เงินจากนักลงทุนเริ่มไหลเข้าตั้งแต่ต้นวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563  โดยเริ่มมียอดซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร จากนั้นมียอดซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนล่าสุดถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563  มียอดซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 39,654 ล้านบาท มียอดถือครอง ณ สิ้นวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563  รวม 882,094 ล้านบาท เพิ่มจากยอดถือครองวันที่ 2 พฤศจิกายน อยู่ที่ 84,6,157 ล้านบาท

จากกระแส “เงินลงทุนต่างชาติ” ไหลเข้า ส่งผลค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว ทำสถิติแข็งค่าในรอบกว่า 10 เดือน อยู่ที่ระดับ 30.29 บาท/ดออลาร์ ใกล้เคียงกับระดับในช่วงเดือนมกราคม 2563 ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ต้องออก มาตรการผ่อนคลายการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสร้างความสมดุลและระบุว่าพร้อมออกมาตรการเพิ่มเติม

เงินลงทุนต่างชาติ

หากติดตามทิศทางเงินลงทุนต่างชาติบางส่วนจะมีการโยกเงินระหว่าง “พันธบัตรระยะสั้น” กับ “ตลาดหุ้น” และบางส่วนลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้น ซึ่งกระแสเงินนักลงทุนต่งชาติไล่ซื้อหุ้นขนาดใหญ่ ดันดัชนีตลาดหลักทรัพย์ขยับขึ้นต่อเนื่อง ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อยู่ที่1,389.34 จุด ทะยานขึ้นกว่า 100 จุด จากระดับ 1,202.16 จุด เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563

กระแสเงินลงทุนไหลเข้าไทย เป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา รายงานว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นทั่วโลกมากเป็นประวัติการณ์ถึง 7.14 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐ และตลาดเกิดใหม่

นักวิเคราะห์ข่าวว่าหุ้นไทยปรับขึ้นเร็ว เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับลดลงมามาก โดยเทียบกับตลาดในภูมิภาคแล้ว หุ้นไทยถือว่ามีราคาถูก แต่หลังจากปรับขึ้น ทำให้ราคาเฉลี่ยมีระดับใกล้เคียงกับภูมิภาค คาดว่ากระแสเงินไหลเข้าจะชะลอลง โดยปัจจัยที่จะกระตุ้นอีกครั้งคือความคืบหน้าพัฒนาวัคซีนโควิด-19

ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน  เงินลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิหุ้นไทย 31,156.56 ล้านบาท ซึ่งเป็นเดือนแรกในรอบปีที่มียอดซื้อสุทธิ หลังเทขายอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่สงครามการค้าระอุขึ้น แต่จากแรงเทขายต่อเนื่องมากว่า 10 เดือน นักลงทุนต่างชาติยังมียอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปี 268,393.66 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo