Business

‘iPhone 12’ กับเหตุผลที่ควรมีไว้ครอบครอง โดยเฉพาะในยุค 5G

iPhone 12 กับเหตุผลที่ควรมีไว้ครอบครอง หลังเริ่มเปิดจองแล้ว แต่มีหลายคนที่อาจยังลังเลใจ ด้วยสนนราคาที่ “ไม่ถูก” แต่ราคานี้ก็ถือว่า “ไม่แพง

หลังจากเปิดจอง iPhone 12 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้ว่า ค่ายแอปเปิล จะยังคงอุบตัวเลขยอดจองเอาไว้ แต่เมื่อฟังน้ำเสียงจากบรรดาค้าปลีกไอที ค่ายมือถือที่แห่กระหน่ำจัดโปรโมชั่น ต้องยอมรับว่า กระแสตอบรับน่าจะเป็นที่น่าพึงพอใจไม่น้อย ก็เพราะ ไอโฟน 12 กับเหตุผลที่ควรมีไว้ครอบครอง มีดังนี้

iPhone 12

รองรับ 5G

ต้องยอมรับว่า ยุคนี้ อะไรก็ต้อง 5G เช่นเดียวกับดีไวซ์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องพัฒนาออกมาเพื่อสามารถใช้กับ เทคโนโลยี 5G ที่ถูกมองว่า จะเป็นเทคโนโลยีพลิกโลกได้ เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน ที่ต้องพัฒนาออกมา เพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G

ไอโฟน 12 ก็เช่นกัน ที่ออกมารองรับเครือข่าย 5G ได้ แถมยังรองรับได้ครบทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ ไอโฟน 12, ไอโฟน 12 Max, ไอโฟน 12 Pro, และ ไอโฟน 12 Pro Max

นอกจากนั้นก็ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Smart Data Mode ซึ่งจะช่วยสลับการใช้งานเครือข่าย 4G/5G ให้อัตโนมัติเพื่อประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย

ชิพที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน

ไอโฟน 12 ทั้ง 4 รุ่น ใช้ชิปประมวลผล Apple A14 Bionic แบบ 6-Core ซึ่งเป็นชิพที่เร็วที่สุด เท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน และยังเป็นชิพตัวแรก ที่สร้างขึ้นด้วยกระบวนการผลิต 5 นาโนเมตร จึงเล่นเกมได้ดีขึ้น มีคุณภาพของภาพดีขึ้น ทำงานทั่วไปในแต่ละวันด้วยประสิทธิภาพโดยรวมที่เร็วขึ้น Neural Engine แบบ 16-core มีประสิทธิภาพดีขึ้น 80%

ไอโฟน

ดีไซน์ใหม่ สวยทนทาน

ไอโฟน 12 มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน พร้อมสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม และกระจกด้านหลัง ที่มีการตัดแต่งรูปทรงอย่างแม่นยำ และยังมีให้เลือกถึง 4 สีใหม่

ด้านหน้าแบบ Ceramic Shield มีความแข็งแกร่งกว่ากระจกบนสมาร์ทโฟนไหนๆ และยังทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า ดีไซน์ใหม่เพิ่มความทนทานของกระจกด้านหลัง จึงสามารถทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 2 เท่า ทนน้ำได้ลึกถึง 6 เมตร ภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที

กล้องหลัง รองรับทั้งภาพและวิดีโอที่ดียิ่งขึ้น

ไอโฟน 12 และ ไอโฟน 12 mini มาพร้อมกล้องคู่ใหม่ ระบบกล้องไวด์ใหม่มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.6 ชิ้นเลนส์ 7 ชิ้น เพื่อภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น เพื่อการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยดีขึ้น 27% โหมดกลางคืนมีอัลกอริทึมในการรวมภาพที่ดียิ่งขึ้น

ส่วนกล้องไวด์ใหม่สามารถรับแสงได้มากขึ้น สามารถบันทึกและตัดต่อวิดีโอ HDR ระดับ 4K ในแบบ Dolby Vision แบบเดียวกับโรงภาพยนตร์ สูงสุด 30 fps สามารถเปิดรับแสงได้นานขึ้น พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลสามารถปรับแก้ตำแหน่งได้มากขึ้นถึง 5 เท่า เพื่อให้วิดีโอมีความนิ่งยิ่งขึ้น

10NOV เทียบหุ้นราคา iphone12

ไอโฟน 12 Pro และ ไอโฟน 12 Pro Max ประกอบด้วยกล้องอัลตร้าไวด์ ไวด์ และเทเลโฟโต้ ระบบกล้องไวด์ใหม่ ซึ่งเป็นเลนส์ขนาดใหญ่ที่สุดใน iPhone รวมถึงมีชิ้นเลนส์ 7 ชิ้น เพื่อภาพและวิดีโอที่คมชัดยิ่งขึ้นและมีคุณภาพดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ไอโฟน 12 Pro Max มีเซ็นเซอร์ใหม่ขนาด 1.7μm พิกเซล ซึ่งช่วยให้ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น 87% เมื่อเทียบกับ ไอโฟน 11 Pro Max และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล รวมถึงกล้องเทเลโฟโต้ 65 มม. บน ไอโฟน 12 Pro Max สามารถซูมเข้าได้ 2.5 เท่า สามารถบันทึกและตัดต่อวิดีโอ HDR ระดับ 4K ในแบบ Dolby Vision

หน้าจอ Super Retina XDR

iไอโฟน 12 ทั้ง 4 รุ่นใช้หน้าจอ Super Retina XDR โดย ไอโฟน 12 Pro จะมีหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว, ไอโฟน 12 Pro Max หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่นที่มีมีจอภาพขนาดใหญ่ที่สุด สว่างที่สุด และคมชัดที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone โดยมีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่ 2,000,000:1 เพื่อสีดำที่ดำสนิท และความสว่างสูงสุดที่ 1,200 นิต พร้อมรองรับภาพยนตร์ HDR ในแบบ Dolby Vision

ส่วน ไอโฟน 12 มีหน้าจอขนาดอยู่ที่ 6.1 นิ้ว พร้อมจำนวนพิกเซลมากกว่า ไอโฟน 11 สองเท่าที่ 460 พิกเซลต่อนิ้ว เพื่อภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น และ iPhone 12 mini หน้าจอขนาด 5.4 นิ้ว จำนวนพิกเซลมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่ 476 พิกเซลต่อนิ้ว

สีใหม่ ให้เลือกตรงใจกว่าเดิม

ไอโฟน 12 และ ไอโฟน12 Mini มีให้เลือกด้วยกัน 5 สี คือ ดำ ขาว แดง เขียว และ น้ำเงิน

ส่วน ไอโฟน 12 Pro และ ไอโฟน 12 Pro Max มีให้เลือก 4 สี คือ น้ำเงิน Pacific Blue ทอง ดำ และขาว ฃ

อุปกรณ์เสริมใหม่ MagSafe

iPhone 12 ซีรีส์ มาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายรูปแบบใหม่ในชื่อ MagSafe ที่นำแม่เหล็กมาช่วยในการชาร์จเครื่องที่ให้กำลังไฟสูงถึง 15W นอกจากนั้นยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Watch ได้ด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo