นักวิเคราะห์ มองมาตรการแบงก์ชาติเอาไม่อยู่ สัปดาห์หน้า “เงินบาท” เคลื่อนไหวอยู่ที่ 30 บาท หุ้นไทย แนวต้าน 1400-1420 จุด จับตาตัวเลขส่งออก-การเมืองในประเทศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 16-20 พฤศจิกายน 2563 เงินบาทกลับมาแข็งค่า แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเพิ่มมาตรการดูแลเงินบาท
ทั้งนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นสั้นๆ ช่วงต้นสัปดาห์ แตะระดับแข็งค่าสุดรอบ 10 เดือนที่ 30.14 บาทต่อดอลลาร์ ท่ามกลางแรงซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับสกุลเงินเอเชียก็มีแรงหนุนจากการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยอ่อนค่ากลับมาช่วงกลางสัปดาห์ หลังทางการส่งสัญญาณเตือนถึงการแข็งค่าที่เร็วเกินไป ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากตลาดมองว่า มาตรการ ธปท. ทั้ง 3 เรื่อง ได้แก่ ปรับเกณฑ์ FCD, คลายเกณฑ์ลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศของนักลงทุนไทย และกำหนดลงทะเบียนแสดงตัวตนซื้อ-ขายตราสารหนี้ เป็นมาตรการที่เน้นดูแลสมดุลเงินทุนเคลื่อนย้าย ไม่ใช่การสกัดเงินทุนไหลเข้า
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 พ.ย. 63) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.29 เทียบกับระดับ 30.22 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (13 พ.ย. 63)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป ระหว่างวันที่ 23-27 พฤศจิกายน 2563 ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ข้อมูลการส่งออกเดือนตุลาคม 2563 และสถานการณ์ทางการเมือง
ส่วนตัวเลข เศรษฐกิจ สหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน จีดีพีไตรมาส 3/63 (ครั้งที่ 2) บันทึกการประชุมเฟด (4-5 พ.ย. 63) เป็นต้น นอกจากนี้ตลาดยังรอจับตาสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะในสหรัฐ และยุโรป
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 16-20 พฤศจิกายน 2563 ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามบรรยากาศตลาดต่างประเทศ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,389.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.18% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 81,685.12 ล้านบาท ลดลง 25.88% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.48% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 320.99 จุด
นักวิเคราะห์ จากศูนย์วิจัยกสิรกรไทยมองว่า หุ้นไทย ขยับขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ขานรับตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63 ของไทย ซึ่งออกมาดีกว่าที่คาด ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อยในเวลาต่อมาท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ
อย่างไรก็ดีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 การคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยโดย S&P Global Ratings รวมถึงมุมมองที่ว่า มาตรการดูแลค่าเงินบาทของทางการไม่ได้มีความเข้มงวดมากนัก ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยในสัปดาห์นี้
สำหรับสัปดาห์ถัดไป ระหว่างวันที่ 23-27 พฤศจิกายน 2563 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,375 และ 1,360 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,420 จุดตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนตุลาคมของไทย ประเด็นทางการเมืองของไทย สถานการณ์โควิด-19 รวมถึงประเด็นการเมืองสหรัฐ
ส่วนข้อมูล เศรษฐกิจ สหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63 บันทึกการประชุมเฟด ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค. รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนพฤศจิกายน (เบื้องต้น) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI Composite เดือนพฤศจิกายน (เบื้องต้น) ของยูโรโซน และกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนตุลาคมของจีน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ธปท.เปิดวาล์วเงินไหลออก ‘ฝากเงินเสรี-เพิ่มวงเงินลงทุนหุ้น-ซื้อขายบอนด์เสรี’
- แนวโน้มเงินบาทปีหน้าหลุด 30 บาท/ดอลลาร์ กดดันแบงก์ชาติออกมาตรการเพิ่ม
- หุ้น ‘บิ๊กแคป’ ดีดรับข่าววัคซีน ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ ดัน SET ปิดบวก 4.83 จุด
