Economics

‘นายกฯ’ ย้ำเวทีเอเปค ‘หนุนการค้าเสรี-ต่อยอดธุรกิจดิจิทัล’ ยุคหลังโควิด

 

นายกฯ ย้ำเวทีเอเปคครั้งที่ 27 ส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในภูมิภาคทุกมิติ ต่อยอดธุรกิจดิจิทัลในยุคหลังโควิด-19

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 27 (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ผ่านระบบประชุมทางไกล

ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปผลการประชุมดังนี้

IMG 20201120224925000000

นายมุฮ์ยิดดิน บิน ฮาจี โมฮัมมัด ยัซซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกผ่านระบบทางไกล เอเปคเป็นกรอบการประชุมที่ส่งผลให้เกิดความร่วมมือทางการค้าการลงทุน ด้านเศรษฐกิจ และสังคม และอื่นๆ บนพื้นฐานของฉันทามติร่วมกัน

ภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ ผลกระทบที่เกิดจากความท้าทายต่าง ๆ เช่น โควิด-19 ได้มีผลลดลง นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือกันจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ โดยการกำหนดหัวข้อหลักในปีนี้เพื่อ ย้ำให้ผู้นำเขตเศรษฐกิจตระหนักถึงหน้าที่ ในการสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชน และแบ่งปันให้ทุกคนได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจร่วมกัน ยกระดับคุณภาพชีวิตร่วมกัน

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้นำเสนอ 3 เเนวคิด ได้แก่

  • การค้าพหุภาคีที่ตั้งอยู่บนกฎระเบียบที่ชัดเจน
  • ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจเเละสร้างความเข้มเเข็งให้กับประชาชน
  • ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่ครอบคลุม เพื่อไม่ให้มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีไทยได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมว่า บริบทของโลกในวันนี้ได้แตกต่างจากเอเปคในอดีต ทั้งช่องว่างทางการค้า กระแสปกป้องทางการค้า และความท้าทายต่างๆ ในระบบพหุภาคี จึงต้องปรับตัวบนพื้นฐานของการค้าและการลงทุน ซึ่งถือเป็นหัวใจของเอเปค และเป็นปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นตัวในภูมิภาค

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า เอเปคต้องมีบทบาทผลักดันการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน การรวมตัวกันทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบการค้าพหุภาคี โดยได้นำเสนอ 3 ประเด็นหลักที่ควรให้ความสำคัญ ได้แก่

1. ส่งเสริมความเชื่อมโยงในทุกมิติ โดยเฉพาะในด้านดิจิทัลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจ เช่น ส่งเสริม MSMEs พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และยกระดับขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านดิจิทัลใหม่ๆ

2. การเจริญเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน จะเป็นวาระเร่งด่วน และเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของเอเปคอย่างแท้จริงในยุคหลังโควิด-19 โดยทุกภาคส่วนของสังคมจะได้รับประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมจากการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน มีการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ทั่วถึงและเป็นธรรม

3. สร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ยืดหยุ่นต่อ disruptions ต่าง ๆ โดยมองว่า วิกฤตของโควิด-19 ถือเป็นโอกาสที่แฝงอยู่ เปรียบเสมือนการสร้างความตระหนักรู้ถึงความเตรียมพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งไทยยินดีแบ่งปันประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 กับประชาคมระหว่างประเทศ

IMG 20201120224932000000

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรียืนยันว่า จะผลักดันให้เอเปคสามารถเดินต่อไปได้อย่างไม่หยุดชะงัก ท่ามกลางอุปสรรค และความท้าทายในปีนี้ พร้อมเน้นย้ำว่า ไทยยินดีและพร้อมที่จะร่วมงานกับนิวซีแลนด์ และทุกเขตเศรษฐกิจในปีหน้า เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปี 2565

โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกประเทศจะสานต่อความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์เพื่อถ่ายทอดเจตนารมณ์ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมบนพื้นฐานของเอเปคที่ยึดมั่นมาตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษ และนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของภูมิภาคต่อไป

อนึ่ง ในช่วงการกล่าวถ้อยแถลงของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนกล่าวถึงความสำคัญของการเปิดตัววิสัยทัศน์ภายหลังปี 2563 ซึ่งจีนพร้อมร่วมสร้างอนาคตร่วมกัน โดยมีข้อเสนอ 4 ประการ ดังนี้

1. ต้องเปิดกว้างและทั่วถึง เพื่อส่งเสริมการค้าพหุภาคี ผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยจีนยินดีกับการลงนาม RCEP ที่ผ่านมา

2. ผลักดันการเติบโตบนพื้นฐานการพัฒนาทางดิจิทัล และนวัตกรรม เพื่อผลักดันเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งส่งเสริมการค้าอิเล็กทรอนิกส์

3. ส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันผ่าน APEC Connectivity Blueprint เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ โดยเฉพาะการส่งเสริมการเดินทางของคน สินค้า เงินทุนและการส่งต่อข้อมูลอย่างปลอดภัย ซึ่งจีนยินดีที่จะให้ความร่วมมือผ่านโครงการเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 Belt and Road Initiative (BRI) กับทุกฝ่าย

4. ผลักดันความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย บนพื้นฐานของประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านสาธารณสุข วัคซีน MSMEs ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการรับมือกับโควิด-19 ได้

IMG 20201120224922000000

ส่วนสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้เน้นย้ำว่าโลกกำลังต่อสู้กับโรคระบาดในขณะนี้ ซึ่งสหรัฐ ได้สนับสนุนทางเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะการผลิตวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ และยืนยันที่จะกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง

สหรัฐได้เน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อการกลับมาอย่างมั่งคั่งอีกครั้งในภูมิภาค ผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มการจ้างงาน ส่งเสริมการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหา และลดผลกระทบ รวมถึงสร้างความมั่นใจในการบริโภค

นอกจากนี้ ยังได้เน้นนโยบายที่ส่งเสริมการเจริญเติบโต โดยได้ลดภาษีและตัดระเบียบที่ไม่เอื้อต่อการทำธุรกรรม พร้อมทั้งเพิ่มรายได้ต่อครัวเรือนให้มากขึ้น ทั้งเน้นย้ำว่า ขอให้ทุกประเทศสนับสนุนนโยบายของสหรัฐ ที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสร่วมกันมากขึ้น ทั้งสหรัฐ และทั่วโลก

IMG 20201121001517000000

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo