World News

สินค้าหรูอ่วมหนัก! ยอดขายทั่วโลก จ่อดิ่งสุดรอบ 11 ปี

 

ยอดขาย สินค้าหรู ทั่วโลก จ่อร่วง 23% ลงมาอยู่ที่ 217,000 ล้านยูโร ในปีนี้ นับเป็นการร่วงครั้งแรก และครั้งใหญ่สุด ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

เบน” บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ ระบุว่า ตัวเลขคาดการณ์ยอดขายที่ร่วงลงดังกล่าว อยู่ในฝั่งต่ำสุดของช่วงคาดการณ์ที่อยู่ระหว่าง 20-30%  และเป็นระดับสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี 2552 แม้ว่าจะมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวที่ชัดเจนในตลาดจีน ที่ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้ พุ่งขึ้นถึง 45 %  หลังวิกฤติโควิด-19 ในประเทศคลี่คลายลงแล้ว ก็ตาม

shutterstock 1476748334

อัตราการหดตัว ของยอดขาย สินค้าหรู ที่คาดไว้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าก่อนหน้านี้ ยังเป็นผลจากการที่หลายประเทศทั่วโลก ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ในช่วงฤดูร้อน ทำให้ร้านค้าต่างๆ สามารถกลับมา ให้บริการได้อีกครั้ง

แต่การกลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้งของไวรัสโควิด-19 ในยุโรป และสหรัฐ ตั้งแต่เดือนที่แล้ว นำมาซึ่ง มาตรการจำกัดต่างๆ และการสั่งปิดร้านค้ามากมาย ขณะที่ความมั่นใจผู้บริโภค ก็อยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก  เนื่องจากความไม่แน่นอน ที่เกี่ยวโยง กับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ด้วย

บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจรายนี้ ประเมินว่า ยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือย ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2563 น่าจะลดลงอีก 10% หรือ อาจมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลใด จะออกคำสั่ง ปิดภาคธุรกิจ ในช่วงฤดูกาลจับจ่าย ของขวัญคริสต์มาส บ้าง

อย่างไรก็ดี เบน ย้ำว่า ความหวังสดใสสุดของอุตสาหกรรมสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยในขณะนี้ มีอยู่แห่งเดียว คือ ที่ ตลาดจีน ด้วยยอดขายที่พุ่งขึ้น นับแต่ต้นปี จนถึงขณะนี้ที่ 45% คิดเป็นมูลค่าราว 44,000 ล้านยูโร

“เรามีโลก ที่มีความเร็ว 2 จังหวะด้วยกัน โดยที่ยุโรป และสหรัฐ ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากการระบาดรอบ 2 ของไวรัสโควิด 19  รวมถึง ภาวะไร้เสถียรภาพ ทางสังคม และการเมือง ขณะที่จีน กลับมียอดขาย ที่เพิ่มขึ้น วันแล้ววันเล่า”

ก่อนหน้านี้  สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ยอดค้าปลีก เดือนตุลาคม ปรับตัวขึ้น 4.3% ซึ่งแม้ว่า น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า จะปรับตัวขึ้น 4.9% แต่ยอดค้าปลีก เดือนตุลาคม ขยายตัวได้ดีกว่า ในเดือนกันยายน ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 3.3%

ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้น เป็นเดือนที่ 6 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 1.6% ใน เดือนกันยายน

การชะลอตัวของยอดค้าปลีกสหรัฐ ในเดือนตุลาคม ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 และการที่ ภาคครัวเรือน มีรายได้ลดลง เนื่องจาก ชาวอเมริกันจำนวนมาก ประสบภาวะตกงาน

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวม ยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนกันยายน

เบน กล่าวด้วยว่า วิกฤติโควิด-19 กลายมาเป็นตัวเร่ง 3 เทรนด์ คือ

  • การปรับขึ้น ของการสั่งซื้อของ ผ่านระบบออนไลน์ จาก 12%ในปีที่แล้ว กลายมาเป็น 23% ในปีนี้
  • การหนุนให้ธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ มีโอกาส กลายมาเป็น ช่องทางธุรกิจที่สำคัญ ของสินค้าฟุ่มเฟือย ภายใน ปี 2568
  • การที่ประชาชนทั่วโลก หันมาซื้อหาของ ที่ต้องการ ภายในประเทศ เนื่องจากไม่สามารถ เดินทางไปต่างประเทศได้ ในช่วงที่ผ่านมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo