มาเลเซียกำลังเดินหน้าเต็มกำลังมุ่งสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งแม้จะยังไม่มีกำหนดวันที่แน่นอนออกมา แต่บรรดานักวิชาการ และนักสังเกตการณ์ ต่างเชื่อว่า “นาจิบ ราซัก” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะออกมาประกาศวันเลือกตั้งในเร็ววันนี้ และจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือนมิถุนายน
สำหรับชาวมาเลเซียแล้ว สิ่งที่เกือบทุกคนให้ความสนใจอย่างจริงจังก็คือ พรรคฝ่ายค้านมีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ หลังจากที่ “มหาธีร์ โมฮัมหมัด” อดีตนายกรัฐมนตรีวัย 92 ปี หวนกลับคืนสู่การเมืองอีกครั้ง
แต่สิ่งที่นักลงทุนต่างชาติรายใหญ่สุดของมาเลเซีย คือ จีน กำลังจับตาคือ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวผู้นำที่เป็นศูนย์กลางของประเทศ จะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของแดนมังกรในประเทศนี้หรือไม่
ทั้งนี้ จีนกลายมาเป็นคู่ค้าแบบทวิภาคีรายใหญ่สุดของมาเลเซียมาตั้งแต่ปี 2551 และจนถึงขณะนี้ มาเลเซียก็ยังรักษาตำแหน่งคุ่ค้ารายใหญ่สุดของจีนในกลุ่มประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เอาไว้ได้ แม้ในปี 2559 จะหลุดจากตำแหน่งนี้ไปครั้งหนึ่งก็ตาม
อย่างไรก็ดี เหล่านักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้พรรคการเมืองฝ่ายค้ายจะสามารถโค่นรัฐบาลชุดปัจจุบันลงได้ สถานการณ์การค้าระหว่างมาเลเซีย กับนักลงทุนจีนในระยะยาวก็คงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก
นักวิเคราะห์มองว่า ทันทีที่การเลือกตั้งสิ้นสุดลง น่าจะมีการเคลื่อนไหวเพื่อลด หรือสกัดกั้นการลงทุนจากจีน เพื่อให้เป็นไปตามคำมั่นที่พรรคฝ่ายค้านให้ไว้ในการหาเสียง โดยเฉพาะในบางรัฐ อย่าง ยะโฮร์ และ ปีนัง และในอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับนาจิบ แต่สถานการณ์นี้ จะอยู่ไม่นานนัก
เหล่านักวิเคราะห์แสดงความมั่นใจว่า ในที่สุดแล้ว นักลงทุนจีนก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมากนักเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในมาเลเซีย
แต่ทั้งนักลงทุน และบริษัทจากแดนมังกร ยังจำเป็นต้องสร้าง และรักษาสัมพันธ์กับพรรคการเมืองฝ่ายค้านของมาเลเซียเอาไว้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต