อียูจ่อขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า และบริการอเมริกัน มูลค่าสูงสุดราว 4,000 ล้านดอลลาร์ ตอบโต้กรณีที่ยุโรปกล่าวหาสหรัฐ ให้การอุดหนุน “โบอิง” อย่างไม่เป็นธรรม
จะเดินหน้าตามแผนการต่างๆ ในการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ที่กำหนดรายชื่อไว้แล้วจำนวนหนึ่ง รวมถึง ผลไม้แห้ง ยาสูบ เหล้ารัม ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และรถแทรคเตอร์
การประกาศข้างต้น ยังมีขึ้นหลังจากที่องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ตัดสินว่า โบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์รายใหญ่ของสหรัฐ มีความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรมต่อ “แอร์บัส” ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์ยุโรป จากการที่รัฐวอชิงตัน ของสหรัฐ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่โบอิง ระงับการจัดเก็บภาษีบริษัทชั่วคราว
ทางด้านนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐผิดหวังต่อการกระทำของอียู ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว ดับเบิลยูทีโอไฟเขียว ให้สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอียูมูลค่าสูงสุด 7,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงโทษกรณีอียูให้การอุดหนุนแอร์บัส
ทั้งนี้ สหรัฐ และอียู มีข้อพิพาทการค้าระหว่างกันในอุตสาหกรรมการบินมาตั้งแต่ปี 2547 จากประเด็นการให้การสนับสนุนบริษัทผู้ผลิตอากาศยาน 2 รายใหญ่ คือ แอร์บัส และโบอิง และเท่าที่ผ่านมาองค์การการค้าโลก มีคำตัดสินที่คัดค้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินของทั้ง 2 ฝ่ายสลับกันไป
ซาเวียร์ ไทเทลแมน ที่ปรึกษาในอุตสาหกรรมการบิน ชี้ว่า ปัญหาความขัดแย้งดังกล่าว ซับซ้อนมาก และไม่ใช่แค่เรื่องของการอุดหนุนโดยตรง หรือการชะลอการจัดเก็บภาษีให้กับผู้ผลิตเครื่องบินรายหนึ่งรายใดเท่านั้น แต่อาจเป็นเรื่องผิดกฎหมายด้วย
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญบางราย ยังมีความหวังว่า 2 ฝ่ายจะสามารถประนีประนอมกันได้ จากการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ของ บรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีเศรษฐกิจฝรั่งเศส ที่ระบุว่า ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อียู และสหรัฐ อาจหาทางรอมชอมในเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และมองเห็นความเป็นไปได้ ที่ทั้ง 2 ฝ่าย จะสร้างข้อตกลงระหว่างกันขึ้นมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โบอิงมอง ‘การบินจีน’ เติบโตแข็งแกร่ง คาดเพิ่มฝูงบินใหม่กว่า 8 พันลำใน 20 ปี
- ‘โบอิง’ เล็งกู้เงินหมื่นล้านดอลล์ รับมือ ‘วิกฤติ 737 แม็กซ์’
- ‘แอร์บัส’ คาดการณ์ ‘เครื่องบิน’ ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 4.8 หมื่นลำ ภายใน 20 ปี
