World News

‘ดาวโจนส์’ ร่วงกว่า 300 จุด ผิดหวังยอดค้าปลีก-กังวลยอดโควิดพุ่ง

 

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (17 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมใจกันเดินสู่ขาลง จากข้อมูลค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด และความกังวลในเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่พุ่งขึ้นวันละมากกว่า 100,000 คน มาหลายวันติดต่อกันแล้ว 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 29,589.49 จุด ร่วงลง 360.95 จุด หรือ 1.21% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,596.26 จุด ลดลง 30.65 จุด หรือ 0.85% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,877.28 จุด ปรับลง 46.85 จุด หรือ 0.39%

shutterstock 1506122870

วันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนกันยายน

การชะลอตัวของยอดค้าปลีกในเดือนตุลาคม เป็นผลมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการที่ภาคครัวเรือนมีรายได้ลดลง เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนมากประสบภาวะตกงาน  ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนตุลาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนกันยายน

หุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ อิงค์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาของสหรัฐ ดิ่งลง 9% ในวันนี้ หลังอเมซอน ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทจะให้บริการเดลิเวอรี ยาแก่สมาชิกไพรม์ ซึ่งบริการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของวอลกรีนส์

ขณะที่ หุ้นวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก และโฮม ดีโป้ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ต่างปรับตัวลงในวันนี้ แม้มีการเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ตรงข้ามกับราคาหุ้นเทสลา ที่พุ่งขึ้นมากกว่า 11%  หลัง เอสแอนด์พี ดาวโจนส์ อินดิซีส ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์ก แถลงว่า จะนำหุ้นเทสลา ไปรวมไว้ในการคำนวณดัชนีเอสแอนด์พี 500 ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคมนี้

อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยสหรัฐติดอันดับ 1 ของโลก ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 11.5 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 252,000 ราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo