วันนี้ (17 พ.ย.) ทวิตเตอร์ ของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ได้เกิดเหตุขว้างปาสิ่งของ และปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร และกลุ่มเสื้อเหลือง บริเวณแยกเกียกกาย แนวรั้วที่สองหลังสะพานลอย โดยที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่อยู่ใกล้เคียง ไม่ได้เข้ามาควบคุมแต่อย่างใด
โดยบริเวณแยกเกียกกาย เป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังโดยรอบบริเวณหน้ารัฐสภา ด้านฝั่งแยกเกียกกาย ห้ามไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ควบคุม พร้อมตั้งแท่นปูนแบริเออร์ และลวดหนามขวางไว้สลับกันถึง 5 ชั้น
จุดดังกล่าวมีการยิงน้ำแรงดันสูงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมาที่บริเวณหน้ารัฐสภา เพื่อติดตามการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาตั้งแต่เวลาประมาณ 14.30 น.
เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำรถฉีดน้ำเข้ามาเพิ่มที่บริเวณหน้าประตูใหญ่รัฐสภา ถ.สามเสน รวมมีรถฉีดน้ำประจำจุดนี้ 4 คัน พร้อมกับรถบรรทุกน้ำสำหรับใช้เติม พร้อมกับมีการยิงแก๊สน้ำตาเป็นระยะ เพื่อยับยั้งไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมขยับเข้ามาใกล้
17:12 เกิดการปะทะกันระหว่างคนเสื้อเหลือง และกลุ่มคณะราษฏรค่ะ มีคนบาดเจ็บ หัวแตก เพราะถูกขวดแก้วปาใส่ #ม็อบ17พฤศจิกา pic.twitter.com/HDXpUwUrbu
— 川 รับปัย กำลังจุย (@Ph0enixsk) November 17, 2020
เวลา 17.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอยรถน้ำออกมาจากแนวเผชิญหน้าผู้ชุมนุมบริเวณแยกเกียกกาย จากนั้นผู้ชุมนุมสามารถรื้อแบริเออร์ และรั้วลวดหนามเข้ามายึดพื้นที่สี่แยกเกียกกายได้แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลบเข้าไปในซอยวัดแก้วฟ้า ทำให้แนวปะทะของกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร และกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลือง เข้าปะทะกัน
ฝั่งเสื้อเหลืองมีมีด แต่มันใส่เสื้อดำ อะมึง ให้กูคิดไง #ม็อบ17พฤศจิกา pic.twitter.com/ZJSDrh5i10
— H`nap☁︎︎ III (@New_2401) November 17, 2020
อ่านข่าวเพิ่มเติม