เอเชีย ระทึก! ยอดผู้ติดเชื้อ ‘โควิด’ พุ่งเป็นประวัติการณ์รอบใหม่

โดย KANYAPORN PHUAKVISUTHI 15 พฤศจิกายน 2563

โควิดเอเชีย ส่อเค้ารุนแรงขึ้น โดยประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ และการระบาดครั้งใหม่ สูงเป็นประวัติการณ์ โดยที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น ถึงความเป็นไปได้ ที่อาจจะต้องประกาศภาวะฉุกเฉินอีกครั้ง และเกาหลีใต้เตือนว่า ประเทศอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ

อัตราการระบาดของ โควิดเอเชีย กลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ในช่วงเวลาที่ หลายประเทศในภูมิภาคนี้ เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางอย่างค่อยเป็นค่อยไป สถานการณ์ที่ ทำให้โอกาส การเปิดประเทศ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจลดลง

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.) จำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันของญี่ปุ่น พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1,722 คน โดยมีจุดร้อนการระบาดอยู่ที่ ฮอกไกโด ทางตอนเหนือของประเทศ รวมถึงที่เมืองเฮียวโกะ และโอซากา ทางตะวันตก

ส่วนที่กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศ รายงานผู้ป่วยรายใหม่เกือบ 400 คน ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา

บรรดาผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ตัวเลขการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น จะชะลอการฟื้นตัวของญี่ปุ่น ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สุกะ ผู้นำญี่ปุ่น บอกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องประกาศภาวะฉุกเฉินอีกครั้ง หรือจะต้องระงับแผนการของรัฐบาล ที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ

ส่วนที่เกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่รายงานการพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันมากกว่า 200 คน ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นตัวเลขผู้ป่วยใหม่รายวันที่สูงกว่า 200 คนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ทั้งรัฐบาลกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มความเข้มงวดในการใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมด้วย

ปาร์ก เนือง ฮู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุว่า เกาหลีใต้กำลังอยู่บนทางแยกที่วิกฤติ เป็นจุดที่อาจจะต้องดำเนินการปรับมาตรการเว้นระยะห่าง

ขณะที่อินเดีย ระบุว่า จะนำแพทย์จากพื้นที่ต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ พร้อมเพิ่มอัตราการตรวจหาเชื้อ ขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อในเมืองหลวง ที่่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันของอินเดีย จะเพิ่มขึ้นต่ำกว่า 50,000 คน เป็นวันที่ 8 ติดต่อกันแล้ว แต่จำนวนผู้ิติดเชื้อในกรุงนิวเดลี กลับพุ่งสูงมากกว่า 7,000 คนต่อวัน ซึ่งเป็นการทำสถิติใหม่ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ทางด้านอินโดนีเซีย ประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง หลังช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มนิ่ง และเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (13 พ.ย.) อินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน พุ่งเป็นประวัติการณ์ถึง 5,444 คน

วันนี้ รัฐเซาท์ ออสเตรเลีย รายงานการพบผู้ป่วยรายใหม่ 14 คน หลังจากที่ไม่พบการติดเชื้อภายในรัฐ มานานหลายเดือนแล้ว โดยคาดว่า ผู้ป่วยกลุ่มใหม่นี้ มีแนวโน้มจะเกี่ยวกับโรงแรม ที่ใช้เป็นสถานที่กักโรคนักเดินทาง

หลายรัฐในออสเตรเลีย ได้บังคับใช้มาตรการควบคุมการเดินทางข้ามรัฐขึ้นมาใหม่ เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเซาท์ออสเตรเลีย กลายมาเป็นภัยคุกคามอย่างมาก ต่อการควบคุมโรคระบาดอย่างแข็งแกร่งของออสเตรเลีย ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศมานานหลายวันแล้ว

คนเอเชียเสี่ยงติดโควิด-19 มากกว่าคนขาว

ก่อนหน้านี้ ผลการศึกษาของคณะนักวิจัย จาก มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ และมหาวิทยาลัยนอตติงแฮมของ สหราชอาณาจักร ระบุว่า “คนผิวดำและคนเอเชีย” มีแนวโน้มป่วยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สูงกว่าคนผิวขาวอย่างมีนัยสำคัญ

คณะนักวิจัยดำเนินการวิเคราะห์ผลการศึกษาในสหราชอาณาจักร และสหรัฐ ซึ่งเก็บข้อมูลผู้ป่วยโรคโควิด-19 เกือบ 19 ล้านคน จำนวน 50 ฉบับ และพบว่าคนผิวดำมีแนวโน้มติดโรคโควิด-19 มากกว่าคนผิวขาว 2 เท่า และคนที่มีพื้นเพจากเอเชีย มีแนวโน้มติดโรคโควิด-19 มากกว่า 1 เท่าครึ่ง

หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน รายงานว่า ผลกระทบจากโรคโควิด-19 ที่ไม่สมส่วนต่อกลุ่มประชากรต่างๆ อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความแตกต่างของสิทธิ การอาศัยอยู่ในครัวเรือนรวมขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกหลายรุ่น และการประกอบอาชีพที่ต้องทำงานข้างนอกอันไม่สามารถเลือกทำจากบ้านได้

มานิช พารีก รองศาสตราจารย์คลินิก ด้านโรคติดต่อประจำ มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ กล่าวว่าการค้นพบนี้บ่งชี้ความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องมุ่งช่วยเหลือประชากรกลุ่มนี้อย่างเจาะจงเพิ่มขึ้น พร้อมเสริมว่า “มันเป็นความพยายามเพื่อรับรองการเข้าถึงความช่วยเหลือตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อประชาชนสามารถรับคำแนะนำและการดูแลได้ตั้งแต่ต้น”

ผลการศึกษาฉบับนี้ ซึ่งตีพิมพ์ลงวารสารอีคลินิคัลเมดิซีน (EClinicalMedicine) เป็นการวิเคราะห์งานวิจัยและเอกสารเบื้องต้นที่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะอย่างครอบคลุมครั้งแรก ซึ่งมุ่งเน้นศึกษาผลกระทบของโรคโควิด-19 ต่อกลุ่มชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน

อนึ่ง จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของสหราชอาณาจักรพุ่งเกิน 50,000 ราย เมื่อนับถึงวันพุธ (11 พ.ย.) ส่งผลให้สหราชอาณาจักรกลายเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เสียชีวิตเกินห้าหมื่นรายลำดับที่ 5 ในโลก ต่อจากสหรัฐ บราซิล อินเดีย และเม็กซิโก

อ่านข่าวเพิ่มเติม