Politics

กระเป๋าแบน! โพลเผยคนไทยมีรายได้แบบเดือนชนเดือน ไม่พอเก็บออม

“กรุงเทพโพลล์” เผยผลสำรวจ “ภาวะการเงินคนไทยปี 2563” ชี้ส่วนใหญ่มีรายได้แบบเดือนชนเดือน ไม่พอเก็บออม เหตุข้าวของเครื่องใช้ประจำวัน มีราคาแพงขึ้น

กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจ ภาวะการเงินคนไทยปี 2563 โดย 41.4% มีรายได้แบบเดือนชนเดือน ไม่พอเก็บออม 28.3% มีรายได้ไม่เพียงพอต้องหยิบยืม กู้เงิน 61.3% ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้มีเงินออมลดลง ไม่พอเก็บออม รายได้ไม่เพียงพอ มาจากข้าวของเครื่องใช้ประจำวัน มีราคาแพงขึ้น 81.7% เลือกใช้วิธีใช้จ่ายให้ประหยัดขึ้น และคิดก่อนซื้อ เพื่อให้มีเงินเพียงพอ

กรุงเทพโพลล์ โดย ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “สภาวการณ์ทางการเงินของคนไทย ในปี 2563” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,221 คน พบว่า ภาพรวมทางการเงินของคนไทยในปีนี้ 41.4% ระบุว่า มีรายได้แบบเดือนชนเดือน ไม่พอเก็บออม รองลงมา 28.3% ระบุว่า มีรายได้ไม่เพียงพอต้องหยิบยืม/กู้เงิน และ 17.6% ระบุว่า มีรายได้เพียงพอ แต่มีเงินออมลดลง

ส่วนปัจจัยที่ทำให้มีเงินออมลดลง ไม่พอเก็บออม รายได้ไม่เพียงพอในปัจจุบัน นั้น ส่วนใหญ่ 61.3% ระบุว่า ข้าวของเครื่องใช้ประจำวัน มีราคาแพงขึ้น รองลงมา 36.8% ระบุว่า ต้องผ่อนรถ/ผ่อนบ้าน และ 29.3% ระบุว่า มีลูกค้าน้อยลง ธุรกิจแย่/ค้าขายไม่ดี

สำหรับวิธีจัดการ ปรับวิธีใช้จ่ายเงินเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในการใช้จ่ายท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน นั้น ส่วนใหญ่ 81.7% ระบุว่า ใช้จ่ายให้ประหยัดขึ้น และคิดก่อนซื้อ รองลงมา 55.7% ระบุว่า ใช้วิธีลดการทานอาหารนอกบ้าน ลดปริมาณการท่องเที่ยว และ 22.7% ระบุว่า ใช้วิธีหารายได้พิเศษ เช่น ขายของออนไลน์ ขายของตลาดนัด ขับรถส่งสินค้า ฯลฯ

เมื่อถามว่า “ในสภาวการณ์แบบนี้ หากต้องคงไว้ซึ่งค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ท่านจะคงหมวดใดไว้มากที่สุด” โดยส่วนใหญ่ 80.8% ระบุว่า หมวดค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ รองลงมา 73.3% ระบุว่า หมวดค่าอาหาร เครื่องใช้ต่างๆ และ 43.8% ระบุว่า หมวดค่าการศึกษาของตนเองและบุตรหลาน

124537737 3562482637123982 2670767263061731430 o

ทั้งนี้ มีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม มีดังต่อไปนี้

1. ภาพรวมทางการเงินของท่านในปีนี้เป็นอย่างไร

  • มีรายได้แบบเดือนชนเดือน ไม่พอเก็บออม 41.4%
  • มีรายได้ไม่เพียงพอต้องหยิบยืม กู้เงิน 28.3%
  • มีรายได้เพียงพอ แต่มีเงินออมลดลง 17.6%
  • มีรายได้เพียงพอ มีเงินออมตามเป้าทุกเดือน 12.7%

2. ปัจจัยใดที่ทำให้มีเงินออมลดลง ไม่พอเก็บออม/รายได้ไม่เพียงพอในปัจจุบัน (เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

  • ข้าวของเครื่องใช้ประจำวันมีราคาแพงขึ้น 61.3%
  • ต้องผ่อนรถ/ผ่อนบ้าน 36.8%
  • ลูกค้าน้อยลง ธุรกิจย่ำแย่ ค้าขายไม่ดี 29.3%
  • มีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการดูแลผู้สูงอายุ คนป่วย คนพิการ 26.0%
  • ตนเอง/คนในครอบครัวตกงาน/ถูกเลิกจ้าง 21.4%
  • พืชผลทางการเกษตรเสียหาย/ราคาตก 20.6%
  • ถูกลดเงินเดือน/ลดโอที/ลดวันทำงาน 15.1%
  • ผ่อนสินค้า/ผ่อนบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 13.7%
  • มีค่าเดินทางแต่ละวันเพิ่มขึ้น 12.8%
  • จ่ายดอก จ่ายหนี้นอกระบบเพิ่มขึ้น 10.2%
  • ถูกโกงเงิน/ถูกเบี้ยวเงิน 6.1%

3. วิธีจัดการ ปรับวิธีใช้จ่ายเงินเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในการใช้จ่าย ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
(เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

  • ใช้จ่ายประหยัดขึ้น คิดก่อนซื้อ 81.7%
  • ลดการทานอาหารนอกบ้าน ลดปริมาณการท่องเที่ยว 55.7%
  • หารายได้พิเศษ เช่น ขายของออนไลน์ ขายของตลาดนัด ขับรถส่งของ ฯลฯ 22.7%
  • กู้เงินนอกระบบ ในระบบ 15.7%
  • ลดการสต็อกสินค้าไว้ขาย เพราะลูกค้าลดลง 6.9%
  • ลงทุนทำธุรกิจระยะสั้นที่ได้ผลตอบแทนสูง 3.9%
  • ใช้จ่ายปกติ ตามเดิม ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม 11.8%

4. ในสภาวการณ์แบบนี้หากต้องคงไว้ซึ่งค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ท่านจะคงหมวดใดไว้มากที่สุด
(เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

  • ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ 80.8%
  • ค่าอาหาร เครื่องใช้ต่างๆ 73.3%
  • การศึกษาของตนเอง และ บุตรหลาน 43.8%
  • ค่าผ่อนบ้าน/ผ่อนรถ 35.2%
  • ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต 27.5%
  • ค่าเดินทาง 25.8%
  • ค่ารักษาพยาบาล 18.7%
  • อื่นๆ อาทิ ค่าชำระหนี้ ค่าผ่อนสินค้า ค่าต้นทุนในการผลิตสินค้า ฯลฯ 2.0%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo