Politics

‘สุริยะใส’เชื่อ 4 รมต.พปชร.ไขก๊อกเลี่ยงเป็นเป้าโจมตี

“สุริยะใส” เชื่อถึงจุดหนึ่ง 4 รมต.พปชร.ต้องไขก๊อกจากครม. เพิ่อเลี่ยงการตกเป็นเป้าโจมตี 

สุริยะใส กตะศิลา
นายสุริยะใส กตะศิลา

นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมือง หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดตัว ว่า ทำให้ตลาดการเมืองเริ่มคึกคักและมีสีสันมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญทำให้เริ่มเห็นภาพทางการเมืองในกระดาน เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมือง และเป็นกลุ่มการเมืองกลุ่มสุดท้าย ที่สังคมจดจ่อติดตาม ที่สำคัญเป็นพรรคที่โยงกับรัฐบาลและ คสช.ด้วย

ความได้เปรียบของพรรคพลังประชารัฐ ต้องยอมรับว่ามีมากกว่าพรรคอื่นๆ เพราะเป็นพรรคที่มีอำนาจรัฐในมือ แต่จุดแข็งตรงนี้อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนได้เช่นกัน ถ้าบริหารจัดการไม่ดี แม้รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะไม่ได้บังคับให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลาออกก็ตาม แต่สังคมจะตั้งคำถามถึงความชอบธรรม

ฉะนั้นต้องจัดความสัมพันธ์ในการทำงานจากนี้ไปอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะกระทบกับทั้งพรรคและรัฐบาลไปพร้อมๆ กันได้ ซึ่งแน่นอนจะเป็นเป้าโจมตีให้กับพรรคคู่แข่งทางการเมือง หรือสะดุดขาตัวเอง ซึ่งต้องระมัดระวังให้มาก

“ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ เมื่อถึงจุดหนึ่งเช่น เมื่อกกต.รับรองความเป็นพรรคของพรรคพลังประชารัฐ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็อาจจะลาออกในตอนนั้น เพื่อมาทำพรรคเต็มตัว และหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี และอาจจะมีการปรับ ครม.อีกครั้ง ก่อนเลือกตั้งก็เป็นไปได้” นายสุริยะใส กล่าวและว่า จริงๆ แล้วพรรคพลังประชารัฐ มีคนหน้าใหม่ทางการเมืองและคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจจำนวนมาก

เป็นกลุ่มคนที่ดูค่อนข้างมีความคิด มีพลังที่พรรคควรสนับสนุนให้บทบาท แต่น่าเสียดายที่ถูกบดบังไปจากประเด็นทางการเมือง ที่ตกเป็นเป้าโจมตี ฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ว่าที่กรรมการบริหารพรรค จะต้องพิจารณาบทบาทในส่วนนี้อย่างจริงจัง เพราะในระยะยาว ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ได้เปรียบทางการเมืองเสมอไป

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight