วันนี้มีม็อบ! ตำรวจเตรียมกำลัง 34 กองร้อยรับมือ ย้ำการชุมนุมเป็นสิทธิ์ของทุกท่าน แต่ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ดี ด้าน “บช.น.” แนะเส้นทางหลีกเลี่ยงการชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการดูและรักษาความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมที่จัดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ว่า ในวันนี้มีการชุมนุมใหญ่ 3 กลุ่ม กลุ่มแรกบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ คือ กลุ่มนักเรียนเลว กลุ่มที่ 2 กลุ่มผู้หญิงปลดแอกจัดงานที่บริเวณแยกคอกวัว และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มม็อบเฟสติวัล จัดกิจกรรมจุดบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยหน้าร้านแมคโดนัล
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดผู้รับผิดชอบเหตุการณ์แบ่งออกเป็นโซนที่ 1 ถนนราชดำเนินกลางตั้งแต่บริเวณแยกพระรูปทรงม้า แยก จปร.แยกมัฆวานไปจนถึงแยกผ่านฟ้าและอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บริเวณแยกคอกวัวและใกล้เคียง เป็นเขตพื้นที่ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เป็นหน้าที่ของ พ.ต.อ อรรถวิทย์ สายสืบ รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1
โซนที่ 2 เป็นพื้นที่สำคัญ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและบริเวณโดยรอบไปจนถึง ถนนราชดำเนิน และสนามหลวง เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 นอกจากนี้ ยังมีอีก 1 ชุดในการแก้ไขปัญหากรณีมีผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่ที่ได้พูดคุยกันไว้หรือจัดการชุมนุมในที่อื่น จะมีชุดเคลื่อนที่เร็วของ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รอง ผบช.น.ดูแลในภาพรวม
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากไปยังประชาชนหรือ กลุ่มผู้ชุมนุม ว่า การชุมนุมเป็นสิทธิ์ของทุกท่านเพียงแต่ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ดี มีสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทางกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น การแจ้งการชุมนุม การชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ ชุมนุมด้วยความสงบ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ในการดูแลความรักษาสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้น ทำตามกฎหมายกฎหมายทั้งกรอบนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์
เมื่อถามว่าจะต้องมีการวางสิ่งกีดขวางเพื่อป้องกันผู้ชุมนุมหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ เผยว่า ขั้นต้นยังไม่มีการวางสิ่งกีดขวางในเส้นทางจราจร แต่มีบางจุดที่ต้องวางแนวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม เบื้องต้นใน 3 กลุ่มที่จะจัดกิจกรรมพรุ่งนี้มีเพียงกลุ่มเดียว คือ กลุ่มม็อบเฟสติวัลที่แจ้งการชุมนุม ส่วนการจัดกิจกรรมของกลุ่มนักเรียนเลว เรายึดถือสิทธิเสรีภาพ ส่วนมาตรการดูแลและเยาวชนก็ต้องใช้ตาม ป.วิเด็ก จะไม่ใช้มาตรการความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถ้าเกิดความวุ่นวายจะใช้น้ำฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนกฎหมาย และต้องอยู่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของผู้ชุมนุม ถ้าชุมนุมโดยปราศจากความรุนแรงก็ไม่มีอะไรแต่ถ้า มีการใช้ความรุนแรงเราก็ต้องบังคับใช้กฎหมายเบื้องต้นใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 34 กองร้อย
เมื่อถามต่อว่า การชุมนุมวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการดำเนินคดีใครบ้าง รองผบช.น. เผยว่า เบื้องต้นในการดำเนินคดี เป็น 2 คดีหลักๆ คดีแรกเป็นคดีที่สนสําราญราษฎร์ เป็นคดีฝ่าฝืน พรบ.การชุมนุมสาธารณะมีผู้ต้องหาหรือผู้ที่มีส่วนที่จะต้องดำเนินคดี 24 ราย ส่วนคดีที่ 2 จะเป็นคดีของ สน.ชนะสงคราม เป็น พรบ.ความสะอาด ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานเขตพระนครได้มาดำเนินการร้องทุกข์เรียบร้อยแล้ว ปรากฏตัวพิสูจน์ทราบประมาณ 3 คน คือคนที่นำกล่องไปรษณีย์มาในวันนั้น
เมื่อถามต่อว่า มีการตรวจสอบเอกสารภายในหรือยัง พล.ต.ต.ปิยะ ตอบว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบคดี พรบ.ความสะอาด ของสน.ชนะสงครามให้เสร็จสิ้น พยานหลักฐานต่างๆ ที่เป็นวัตถุจะถูกส่งไปยัง สน.สำราษราษฎร์ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบคดี ตาม พรบ.การชุมนุมสาธารณะอีกส่วนหนึ่ง
เมื่อถามถึงสหภาพแรงงาน ขสมก.ไม่เห็นด้วยที่ตำรวจจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากม็อบ ยันรถเมล์เป็นทรัพย์สินขององค์การที่ได้มาจากภาษีของประชาชน พร้อมประกาศคัดค้านให้ถึงที่สุดหากนำไปใช้อีก รอง ผบช.น. ตอบว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการหารือกับผู้แทน ขสมก.เรียบร้อยแล้ว
“จริงๆ แล้วการดำเนินการต่างๆ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ความเสียหายที่เกิดขึ้น มันจะเป็นพยานหลักฐานดำเนินดีกับผู้กระทำความผิด อย่างเช่นปี 51 มีการปิดสนามบินมีการฟ้องเรียกค่าเสียหาย 522 ล้าน ศาลฏีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยทั้งหมดชดใช้ และอีกคดีการวางเพลิงเผาทรัพย์อาคารพาณิชย์แยกราชปรารภ ฟ้องทั้งหมด 13 ราย ศาลพิพากษาให้แกนนำ 3 รายชดใช้” รอง ผบช.น. กล่าว
รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้น ขสมก.ไม่ต้องห่วง ไม่ว่า ขสมก. จะวิ่งหรือตำรวจนำมาใช้ในราชการ ถ้ามีผู้หนึ่งผู้ใดมาทำให้เสียหาย ผู้กระทำต้องรับผิดชอบทั้งคดีแพ่งและดคีอาญา เพราะการที่จะนำรถเมล์มาใช้มีการประสานและหารือร่วมกันถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าในวันที่ 14 พฤศจิกายน จะมีการทำพิธีเปิดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสนามไชยซึ่งจะมีขบวนเสด็จ ตำรวจกังวลหรือไม่ เพราะสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินและสถานที่ชุมนุมไม่ห่างกันเท่าใดนักมีความกังวลหรือไม่ เขาตอบว่า เรามีความพร้อมในการถวายอารักขาและดูแลประชาชนอยู่แล้ว
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.จร. ขอประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ กรณีในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 ตามที่ปรากฏทางสื่อโซเชียลมีเดีย ได้มีประกาศนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่เวลา 14.00น. เป็นต้นไปนั้น
เนื่องด้วยบริเวณการรวมกลุ่มเพื่อชุมนุมฯ อยู่บริเวณถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลัก ที่ประชาชนใช้ในการสัญจร ดังนั้นเพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน บช.น. จึงขอแจ้งข้อมูลข่าวสารด้านการจราจร เพื่อประกอบในการวางแผนการเดินทาง และขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไปจนเสร็จสิ้นการชุมนุม ดังนี้
1.เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและควรหลีกเลี่ยง
- ถนนราชดำเนินใน
- ถนนราชดำเนินกลาง
- ถนนราชดำเนินนอก
- ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า
- ถนนวิสุทธิกษัตริย์
- ถนนจักรพรรดิพงษ์
- ถนนหลานหลวง
- ถนนดินสอ
- ถนนตะนาว
- สะพานพระราม 8
- สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
2 เส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร
2.1 เส้นทางจากฝั่งพระนคร ไป ฝั่งธนบุรี
- ด่วนยมราช – ถนนสวรรคโลก – ถนนราชวิถี – สะพานกรุงธน (ซังฮี้)
- ถนนพระราม 6 – ถนนพระราม 1 – ถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม – ถนนเยาวราช – ถนนจักรวรรดิ์ สะพานพระปกเกล้า
- ถนนพระราม 4 – ถนนเยาวราช – ถนนจักรวรรดิ์ – สะพานพระปกเกล้า
- ถนนพระราม 4 – ถนนสาทรใต้ – สะพานตากสิน
2.2 เส้นทางจากฝั่งธนบุรี ไป ฝั่งพระนคร
- คู่ขนานลอยฟ้า – ทางด่วนศรีรัช – ไปแจ้งวัฒนะ หรือ จตุจักร
- คู่ขนานลอยฟ้า – ทางลงสิรินธร – สะพานกรุงธน(ซังฮี้) – ถนนราชวิถี – ถนนพระราม 6
- สะพานพระปกเกล้า – ถนนจักรเพชร – ถนนมหาไชย – แยกสามยอด – ถนนเจริญกรุง –
ถนนพระราม 4 - สะพานพระปกเกล้า – ถนนจักรเพชร – ถนนมหาไชย – แยกสามยอด – ถนนเจริญกรุง –
แยกเอสเอบี – ถนนวรจักร – ถนนบำรุงเมือง – ถนนพระราม 1 - สะพานพุทธยอดฟ้า – ถนนจักรเพชร – ถนนอัษฎางค์ – ถนนบำรุงเมือง – ถนนพระราม 1
- สะพานตากสิน – ถนนสาทรเหนือ – ถนนพระราม 4
จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบเพื่อเตรียมความพร้อมวางแผนการเดินทาง และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ บช.น. ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในภาพรวม เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางแอพพลิเคชั่น M – Help Me และ ทางเว็บไซต์ WWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เดินทางเช็คเลย! วันนี้ ‘รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน’ ปิดสถานีสามยอดถึงหลักสอง
- เตือนแล้วนะ! ‘บช.น.’ แนะเลี่ยงเส้นทางหนีม็อบพรุ่งนี้
- ใครยังงง!! ตอบทุกข้อสงสัย ‘สินเชื่อเสริมพลังฐานราก’ อ่านจบกู้เงินได้เลย