ผลการศึกษาของคณะนักวิจัย จากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ และมหาวิทยาลัยนอตติงแฮมของ สหราชอาณาจักร ระบุว่า “คนผิวดำและคนเอเชีย” มีแนวโน้มป่วยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สูงกว่าคนผิวขาวอย่างมีนัยสำคัญ
คณะนักวิจัยดำเนินการวิเคราะห์ผลการศึกษาในสหราชอาณาจักร และสหรัฐ ซึ่งเก็บข้อมูลผู้ป่วยโรคโควิด-19 เกือบ 19 ล้านคน จำนวน 50 ฉบับ และพบว่าคนผิวดำมีแนวโน้มติดโรคโควิด-19 มากกว่าคนผิวขาว 2 เท่า และคนที่มีพื้นเพจากเอเชีย มีแนวโน้มติดโรคโควิด-19 มากกว่า 1 เท่าครึ่ง
หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน รายงานว่า ผลกระทบจากโรคโควิด-19 ที่ไม่สมส่วนต่อกลุ่มประชากรต่างๆ อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความแตกต่างของสิทธิ การอาศัยอยู่ในครัวเรือนรวมขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกหลายรุ่น และการประกอบอาชีพที่ต้องทำงานข้างนอกอันไม่สามารถเลือกทำจากบ้านได้
มานิช พารีก รองศาสตราจารย์คลินิก ด้านโรคติดต่อประจำ มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ กล่าวว่าการค้นพบนี้บ่งชี้ความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องมุ่งช่วยเหลือประชากรกลุ่มนี้อย่างเจาะจงเพิ่มขึ้น พร้อมเสริมว่า “มันเป็นความพยายามเพื่อรับรองการเข้าถึงความช่วยเหลือตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อประชาชนสามารถรับคำแนะนำและการดูแลได้ตั้งแต่ต้น”
ผลการศึกษาฉบับนี้ ซึ่งตีพิมพ์ลงวารสารอีคลินิคัลเมดิซีน (EClinicalMedicine) เป็นการวิเคราะห์งานวิจัยและเอกสารเบื้องต้นที่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะอย่างครอบคลุมครั้งแรก ซึ่งมุ่งเน้นศึกษาผลกระทบของโรคโควิด-19 ต่อกลุ่มชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน
อนึ่ง จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของสหราชอาณาจักรพุ่งเกิน 50,000 ราย เมื่อนับถึงวันพุธ (11 พ.ย.) ส่งผลให้สหราชอาณาจักรกลายเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เสียชีวิตเกินห้าหมื่นรายลำดับที่ 5 ในโลก ต่อจากสหรัฐ บราซิล อินเดีย และเม็กซิโก
ที่มา : สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เกาหลีใต้’ เอาจริง ไม่สวมหน้ากากที่สาธารณะ เจอปรับ 1 แสนวอน
- OPEC คาดความต้องการ ‘น้ำมัน’ ทั่วโลกปีนี้ ลดลง 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- จีนลุยพัฒนา ‘วัคซีนโควิด-19’ หลัง ‘บราซิล’ ไฟเขียวให้กลับมาทดลองอีกครั้ง