World News

‘ดาวโจนส์’ ร่วงเกือบ 200 จุด ผวาที่ปรึกษาไบเดนเสนอล็อกดาวน์ สกัดโควิด

 

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (12 พ.ย.) ร่วงลง ท่ามกลางความวิตกถึงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ จากจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่พุ่งสูงเกินกว่า 100,000 รายต่อเนื่องกันหลายวัน และที่ปรึกษาของ “โจ ไบเดน” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เสนอให้ดำเนินการ “ล็อกดาวน์” เพื่อควบคุม และป้องกันการระบาดดังกล่าว 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 29,223.75 จุด ร่วงลง 173.88 จุด หรือ 0.59% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,559.17 จุด ขยับลงมา 13.49 จุด หรือ 0.38% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,810.82 จุด บวก 24.39 จุด หรือ 0.21%

Stocks ๒๐๑๑๑๒

หุ้นกลุ่มสายการบิน และเรือสำราญ กลับมาเป็นแกนนำขาลงของตลาดอีกครั้ง ท่ามกลางความวิตกถึงผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคิวิด-19 ในสหรัฐ ที่กลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง และดูเหมือนจะรุนแรงกว่าเดิม ขณะที่ แรงซื้อกลับเข้ามายังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ช่วยหนุนให้แนสแด็ก ยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้

ปัจจัยบวก จากการประกาศความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด ของไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค ซึ่งช่วยหนุนให้หุ้นทะยานขึ้นติดต่อกันมาหลายวันนั้น ถูกบดบังจากความวิตกรอบใหม่ ถึงผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด ที่จะมีต่อเศรษฐกิจ หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันของสหรัฐ พุ่งขึ้นเกินกว่า 100,000 คน

นอกจากนี้ การที่ นพ.ไมเคิล ออสเตอร์โฮล์ม ที่ปรึกษาด้านการควบคุมไวรัสโควิด-19 ของนายไบเดน เสนอให้มีการล็อกดาวน์สหรัฐเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส จนกว่าจะมีการอนุมัติและจำหน่ายวัคซีนต้านโควิด-19 นั้น ยิ่งทำให้นักลงทุนรู้สึกกังวลมากขึ้น

ตลาดยังได้รับปัจจัยลบ จากถ้อยแถลงของ นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส ที่แสดงความกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญความเสี่ยงขาลงในระยะสั้น จากการระบาดของไวรัสโควิด-19

นายแคปแลน บอกด้วยว่า ตราบใดที่ไวรัสโควิด-19 ยังระบาดอยู่ เฟดก็ไม่ควรยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน และโครงการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจสหรัฐ

ขณะนี้สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 10.7 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 247,000 ราย ทำให้หลายรัฐ รวมถึงแคลิฟอร์เนีย ประกาศมาตรการเคอร์ฟิว ขณะที่ผู้ว่าการรัฐเนวาดาเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ส่วนนครนิวยอร์กประกาศเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมเวลาการเปิดให้บริการของผับบาร์และร้านอาหาร

วันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ ยังเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยลดลงสู่ระดับ 709,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 757,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 735,000 ราย

ขณะที่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนตุลาคม ยังทรงตัวอยู่ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนกันยายน  เนื่องจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน ช่วยชดเชยการดีดตัวขึ้นของราคาอาหาร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo