World News

แรงช้อนซื้อหุ้นเทคโนโลยี หนุน ‘แนสแด็ก’ ฟื้น ‘ดาวโจนส์’ ขึ้นต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (11 พ.ย.) ปรับตัวสูงขึ้น โดยที่ดาวโจนส์ยังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนสแด็ก ฟื้นตัวขึ้น หลังนักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อหุ้นเทคโนโลยีอีกครั้ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 29,459.88 จุด ปรับขึ้น 38.96 จุด หรือ 0.13% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,568.42 จุด ขยับขึ้นมา 22.89 จุด หรือ 0.65% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 11,715.93 จุด ทะยานขึ้น 162.07 จุด หรือ 1.40%

Stocks ๒๐๐๙๒๘

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 1,000 จุด หรือราว 4% นับตั้งแต่วันจันทร์ ขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการคว้าชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนดังกล่าว ส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างปรับตัวขึ้น

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้ดีดตัวขึ้นในวันนี้เช่นกัน

ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับตัวเลขเป้าหมายดัชนี S&P 500 ในปีนี้และปีหน้า ขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มตัวเลขเป้าหมายดัชนี S&P 500 ในช่วงสิ้นปีนี้สู่ระดับ 3,700 จุด และสิ้นปีหน้าสู่ระดับ 4,300 จุด ขานรับ 2 ปัจจัยดังกล่าว

“ถึงแม้นักลงทุนให้ความสำคัญต่อนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่วัคซีนโควิด-19 ถือเป็นปัจจัยสำคัญกว่าในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นในปี 2564” โกลด์แมน แซคส์ระบุ

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขเป้าหมายดัชนี STOXX 600 ของตลาดหุ้นยุโรปในช่วงสิ้นปีหน้าสู่ระดับ 430 จุด โดยได้รับอานิสงส์จากการที่ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนโควิด ขณะที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนมีกำไรเพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นทั่วโลกทะยานขึ้นอย่างมากในช่วงต้นสัปดาห์นี้ หลังจากที่ไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทยารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และไบโอเอ็นเทค บริษัทยาของเยอรมนี แถลงความคืบหน้าครั้งใหญ่ ในการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสสำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน

บริษัทมีแผนที่จะยื่นจดทะเบียนวัคซีนต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในสัปดาห์หน้า ขณะที่คาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และ 1,300 ล้านโดสในปีหน้า ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19

นอกจากนี้ FDA ยังได้อนุมัติการใช้แอนติบอดีของบริษัทอิไล ลิลลี่ แอนด์ โค (Eli Lilly & Co) ในการรักษาโรคโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นยังได้แรงหนุนจากการที่นายโจ ไบเดน ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งได้ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนายไบเดนให้คำมั่นว่าเขาจะทำให้การถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่น และจะผลักดันมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมาตรการสำคัญอื่นๆ

Avatar photo