Politics

ไขก๊อก !! 4 รมต.- 1 รองนายกฯ 3 เดือนไปแน่

พลังประชารัฐ

หลังจากรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ต่างออกมายอมรับ “มีความสนใจที่จะทำงานการเมือง”พร้อมกับเปิดตัว เข้าร่วม “พรรคพลังประชารัฐ “อย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยเฉพาะรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ทั้ง 4 คน ของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี

อย่าง อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้าพรรค สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เลขาธิการพรรค สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรค รัฐมนตรีทั้ง 4 คน ล้วนเป็นนักการเมือง“ป้ายแดง”ทั้งสิ้น

ทันทีที่ตัดสินใจลงเล่นการเมืองของรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ที่ยังนั่งควบเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาล“บิ๊กตู่” ทำให้เกิดกระแสและแรงกดดัน เรียกร้องให้ 4 รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างโปร่งใส ไม่อยากให้ใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น  และเชื่อว่ากระแสเรียกร้องตรงนี้นับวันจะยิ่งหนักขึ้น อาจนำไปสู่แรงกดดันได้ในไม่ช้า หากยังไม่มีการตัดสินใจหรือประกาศความชัดเจนอะไรออกมา

แม้ช่วงที่ผ่านมา อุตตม สาวนายน  ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะออกมาส่งสัญญาณ ” คุยกันแล้วจะเป็นไปในจังหวะเวลาเดียวกัน เงื่อนไขเดียวกัน เมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมจะลาออกพร้อมกัน บอกด้วยจะไม่เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น จะทำตั้งแต่ต้น ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐไปในทางที่ผิด ไม่ใช่อำนาจไปข่มคนอื่น และพร้อมให้ทุกคนตรวจสอบ” ประเด็นนี้ถือเป็นความท้าทาย ทำให้พรรคการเมืองคู่แข่งเฝ้าจับตามอง

จุดท้าทายในความแปลกพิสดารของ 4 หัวหอกพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศตัวออกมา ไม่ได้มี“เซอร์ไพรส์” อะไรมากนัก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีชื่อปรากฎออกมาทดสอบตลาดไปแล้ว ฉะนั้นเมื่อมีชื่อปรากฎก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าแปลกใหม่

นับจากวินาทีที่ประกาศตัว 4 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ทำให้เกิดกระแสเรียกร้อง และกดดันจากพรรคคู่แข่งแบบเรียงหน้าเลยทีเดียว  เรียกร้องให้ 4 รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาล ออกมาต่อสู้ทางการเมือง เพื่อความสง่างาม  อีกทั้งยังเป็นห่วงทำนองว่ารัฐมนตรีทั้ง 4 คน ที่ยังอยู่ในรัฐบาลต้องถึงระมัดระวังการใช้อำนาจหน้าที่ ไปใช้ประโยชน์ในทางการเมือง เพื่อปูทางไปสู่การหาคะแนนนิยมให้กับตัวเองและพวกพ้อง

หลายฝ่ายย่อมรู้ดีว่าข้อเรียกร้องจะไม่สามารถบังคับอะไรได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ก็ตาม แต่เขาว่ากันว่าด้วย“มารยาท”น่าจะลาออกมาเสียดีกว่า

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์2

หากวิเคราะห์ในเชิงลึกเชื่อว่ารัฐมนตรีทั้ง 4 คน รวมไปถึง“ร่างทรง”อย่าง “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ “ ย่อมรู้แก่ใจว่า เมื่อไหร่ที่เปิดตัวลูกทีม เข้าสู่ถนนการเมือง กระแสกดดันให้ลาออกมันเกิดขึ้นแน่นอน เป็นแรงกดดันที่สุ่มเสี่ยงพอสมควร หากลูกทีมทั้ง 4 ยัง“นั่งถ่างขา”ควบตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ ย่อมมีส่วนได้เสียเกิดขึ้นทุกขณะ หากยังดื้อดึงอาจจะนำไปสู่ “จุดอ่อน” ของ “นักการเมืองป้ายแดง” ทั้ง 4 คน

หากจะบอกว่ารัฐมนตรีก่อนๆก็ไม่เคยมีใครลาออก นั่งกุมอำนาจจนกระทั่งเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ภาวะตอนนี้มันต่างกรรมต่างวาระเสียมากกว่า เรียกว่าภาวะไม่ปกติสักเท่าไหร่ หากยังดื้อดึงมีแต่จะเสียกับเสียคะแนนความนิยมเสียมากกว่า

แต่ที่แน่ๆตอนนี้เริ่มมีสัญญาณส่งผ่านต่อๆกันมาเป็นระลอกๆ แม้กฎหมายไม่ได้บังคับให้ต้องลาออก จากตำแหน่งในรัฐบาลของรัฐมนตรีทั้ง4 คน ก็ตาม แต่ดูเหมือนวันนี้มีเสียงจาก“ลูกพี่” อย่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์  มีการอาการบอกใบ้เกิดขึ้นซะแล้ว ทำนอง“อีก 3 เดือนก็ไปแล้ว” คล้ายๆกับจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่างเสียแล้ว

หากวิเคราะห์จากสัญญาณที่ลูกพี่ อย่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เปรยๆออกมา นั่นหมายความว่าอาจเป็นช่วงที่ 4 รัฐมนตรีอาจต้อง ” ไขก็อก” ออกจากตำแหน่งแแบบยกแผงหรืออย่างไร  แต่หากจะให้คาดเดาเวลานี้ขอ “ฟันธง 4 รัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาลทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ น่าจะเป็นการสร้างมาตรฐานความโปร่งใส บนถนนการเมืองอีกมิติหนึ่ง

ฉะนั้นกว่าจะถึงสิ้นปีนี้ 4 รัฐมนตรี อาจต้องอยู่บนแรงเสียดสี เสียดทาน   ของคู่แข่งทางการเมืองที่ เรียกร้องและบีบบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาล“บิ๊กตู่” แบบรายวันแน่นอน ส่วนจะทนได้สักแค่ไหนคงต้องปล่อยให้เป็นบทพิสูจน์ของ“นักการเมืองป้ายแดง” 

แต่ที่แน่ๆ ก่อนมีการเลือกตั้ง เราอาจจะได้เห็นการปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นอีกระลอก  ส่วนจะปรับเล็กปรับใหญ่มีลุ้น แต่ที่แน่ๆ 1 รองนายกฯกับ 4 รัฐมนตรีเศรษฐกิจ แนวโน้ม“ไขก๊อก”แน่นอน และอาจจะมีมากกว่าที่คิดก็เป็นได้ ฉะนั้นปลายปีนี้ภารกิจหนักน่าจะตกอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ที่จะต้องควานหาคนมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี แบบที่ไม่มีใครอยากมาด้วย

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight