Economics

ด่วน!! พักงานผอ.ดอนเมือง 30 วัน ตั้ง ‘ดาลัด’ คุมแทน 

นิตินัย ศิริสมรรถการ
ภาพจาก AOT Official

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ในประเทศจีนเผยแพร่คลิปวีดิโอ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินดอนเมือง ทำร้ายผู้โดยสารชาวจีน  ว่า ตนได้สั่งพักงาน นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการสนามบินดอนเมือง และผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสนามบินดอนเมืองเป็นเวลา 30 วัน โดยให้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่ ทอท . ในช่วงที่มีการสอบสวน

โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. มีการแต่งตั้งนาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์  ให้ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้  แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะต้องระงับไปก่อน จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ ส่วนนาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ จะได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวน

สำหรับขั้นตอนต่อไป ตนจะลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง นางสาวดาลัด อัศเวศน์ รองผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ สายการพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งรักษาผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากนางสาวดาลัด ได้สอบผ่านการเป็นผู้จัดการสนามบินแล้ว

“เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน แต่กลับมารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ตนรับทราบเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งตามขั้นตอน หากเกิดเหตุจะต้องรายงานตามลำดับขั้นหลังเวลาที่เกิดเหตุการณ์ทันที มิควรปล่อยเวลา ต้องเข้าใจว่าการให้บริการของสนามบินดอนเมืองถือเป็นด่านแรกของประเทศ เหตุการณ์จะถูกหรือผิดจะต้องมีจิตใจการให้บริการ ไม่ควรใช้ความรุนแรง ส่วนผลสอบจะออกมาอย่างไรคงต้องรอโทษที่จะบังคับใช้ก็มีตามระเบียบข้อบังคับอยู่แล้ว” นายนิตินัย กล่าว

สนามบินดอนเมือง นักท่องเที่ยวจีน

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า การกระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่ กับผู้โดยสาร และเกิดจากความไม่โปร่งใสในการขอ Visa on Arrival เช่น ผู้โดยสารมีเงินไม่ถึง 4,000 หยวน หรือ ผู้โดยสารต้องจ่ายเงินเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม 300 บาท โดยไม่มีใบเสร็จรับเงินนั้น นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

สาเหตุที่ ตม. ฝั่งไทยไม่ให้ Visa on Arrival เพราะผู้โดยสารไม่สามารถระบุว่า จะพักที่ประเทศไทยกี่วัน และจะพักที่ไหน รวมทั้งมีการพูดจาไม่สุภาพกับเจ้าหน้าที่

ส่วนข้อกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่มีการเรียกค่าบริการแบบไม่มีใบเสร็จ 300 บาทนั้น เป็นข้อกล่าวหาในอดีต ปัจจุบัน ตม. มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดและหากพบพนักงานทุจริต จะถูกไล่ออกทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่คงไม่ย่อมเสี่ยงรับเงินแค่ 300 บาท แลกกับการถูกไล่ออก

ด้านกรณีที่มีการกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ยึดพาสปอร์ต โทรศัพท์มือถือ เพราะผู้โดยสารดังกล่าวไม่ให้ทิปก็ไม่เป็นความจริง เพราะเท่าที่ทราบ ผู้โดยสารดังกล่าวได้โทรศัพท์หาสถานทูตจีน ระหว่างที่ยังอยู่ในพื้นที่ควบคุม ซึ่งสถานทูตจีนก็ได้แนะนำให้ผู้โดยสารรีบกลับไปยังประเทศจีน

นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์  กล่าวว่า ถ้าหากชาวจีนขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ณ สถานทูตไทยประจำประเทศจีน จะเสียค่าวีซ่า 1,000 บาท

แต่หากชาวจีนมาขอวีซ่าที่สนามบินในประเทศไทย (Visa on arrival) จะต้องเสียค่าวีซ่า 2,000 บาท โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะเป็นผู้เก็บค่าวีซ่าและจะส่งรายได้เข้ากระทรวงการคลังต่อไป

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight