อินโดนีเซียเผย ยอดผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสึนามิ ที่เกาะสุลาเวสี ทางตอนกลางของประเทศ พุ่งขึ้นถึง 384 รายแล้วในวันนี้ (29 ก.ย.) โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการถูกคลื่นยักษ์พัดไป ขณะเล่นน้ำบริเวณชายหาด
ก่อนหน้านี้ ทางการอินโดนีเซียได้ประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการครั้งแรกอยู่ที่อย่างน้อย 48 ราย บาดเจ็บ 356 คน ขณะสถานีโทรทัศน์เมโทร ทีวี รายงานอ้างนายแพทย์โคมัง อาดี ซูเจนทรา แพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งว่า พบผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งล่าสุดแล้ว 30 ราย โดยได้มีการนำศพทั้งหมดมาไว้ที่โรงพยาบาลแล้ว และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 12 คน ที่เข้ารับการรักษาอยู่ในขณะนี้
ทางด้านรัฐบาลกลางอินโดนีเซีย และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อผู้เคราะห์ร้าย จากเหตุแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ระดับ 7.5 และคลื่นสึนามิพัดถล่มเกาะสุลาเวสีทางตอนกลางของประเทศ เมื่อเวลา 18.02 น วานนี้ (28 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น
นายวิรันโต รัฐมนตรีความร่วมมือการเมือง กฎหมาย และความมั่นคงอินโดนีเซีย จัดประชุมฉุกเฉินกับหน่วยงาน และกระทรวงต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ เพื่อกำหนดแผนการช่วยเหลือ และกู้ภัยในพื้นที่
อย่างไรก็ดี สนามบินมูเทียรา ซิส อัล จูฟรี ในปาลู ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหว ระบบนำร่องใช้การไม่ได้ และรันเวย์ได้รับความเสียหายเป็นระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร ทำให้เครื่องบินขนาดใหญ่ลงจอดไม่ได้
กระนั้นก็ตาม ทางการคาดว่า พื้นที่รันเวย์ที่เหลืออยู่อีกประมาณ 2,000 เมตรน่าจะเพียงพอสำหรับการลงจอดของเครื่องบินขนส่งสินค้าเฮอร์คิวลีส และซีเอ็น 235 ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถเร่งส่งกำลังคน และสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่างๆ เข้ายังพื้นที่ประสบภัยได้
ทางด้านนายซูโตโป เปอร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า พบร่างผู้เสียชีวิตในหลายพื้นที่ จากการที่ถูกซากปรักหักพังของตึกที่พังถล่มลงมาทับ หรือถูกคลื่นสึนามิพัด แต่ยังต้องเก็บรวบรวมข้อมูลก่อนที่จะยืนยันตัวเลขได้
ทั้งนี้ เมืองปาลู ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งแรก ที่เกิดขึ้นก่อนครั้งที่ 2 ไม่นานนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีกอ่างน้อย 10 คน ในเมืองดองกาลา ที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากสุด
แต่ในการเกิดแผ่นดินไหวครั้งที่ 2 นั้น พื้นที่ชายฝั่งของเมือง ยังโดนคลื่นสึนามิพัดเข้าถล่มด้วย โดยทางการระบุว่า คลื่นที่พัดเข้ามามีความสูงราว 2 เมตร ซึ่งภัยพิบัติทั้ง 2 ครั้งนี้ ทำให้ไฟฟ้า และการสื่อสารถูกตัดขาดในเกือบทุกพื้นที่ของเมือง จนถึงเช้าวันนี้ (29 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ก็ยังพบกับความยากลำบากในการประสานความร่วมมือกู้ภัย