General

สรุปจบในโพสต์เดียว ‘ใบสั่งแบบใหม่’ ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องรู้ วิธีชำระค่าปรับ บทลงโทษ

ใบสั่งแบบใหม่ เรื่องที่ควรรู้ ทั้งโดนติดไว้ที่รถ  ส่งไปรษณีย์ถึงบ้าน เพิ่มวิธีการชำระเงินสะดวกขึ้น โดนตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ ถ้าไม่จ่าย  ถูกปรับเพิ่ม 

เพจเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” สรุปสาระสำคัญ ของการออก ใบสั่งแบบใหม่ ตามประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ.2563 ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ทื่ผ่านมา ซึ่งผู้ขับขี่ควรรู้ อย่างครบถ้วน โดยระบุว่า

ใบสั่งแบบใหม่

“ผู้ใช้รถใช้ถนนโปรดฟังทางนี้ ล่าสุดเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ.2563 เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พ.ย.63

ประเภทของใบสั่ง

  • แบบที่ 1 คือ ใบสั่งที่ให้ผู้ขับขี่ผูก หรือติดไว้ที่รถ มีชุดละ 4 แผ่น : สีขาว ให้ติดไว้ที่รถ สีเหลือง ส่งให้หน่วยงานที่จะเปรียบเทียบปรับ สีชมพู ให้พนักงานสอบสวน และสีฟ้า ผู้ออกใบสั่งเก็บไว้เป็นสำเนา
  • แบบที่ 2 คือ ใบสั่งที่ส่งทางไปรษณีย์ มีชุดละ 2 แผ่น โดย แผ่นที่ 1 ส่งให้กับผู้ขับขี่เจ้าของ หรือผู้ครอบครองรถ และแผ่นที่ 2 ผู้ออกใบสั่งเก็บไว้เป็นสำเนา

ใบสั่ง1

ข้อควรรู้และปฏิบัติ

1. เจ้าของ หรือผู้ครอบครอง ที่ไม่ใช่นิติบุคคล

  • หลังจากเจ้าพนักงานติด หรือผูกใบสั่งไว้ที่รถไปแล้ว 15 วัน จะถือว่าเจ้าของ หรือผู้ครอบครองรถ ได้รับใบสั่งนั้น และให้สันนิษฐานว่า เจ้าของ หรือผู้ครอบครองรถได้กระทำความผิด
  • ถ้าเจ้าของ หรือผู้ครอบครองไม่ได้กระทำความผิด ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับใบสั่ง ว่า ผู้อื่นเป็นผู้ขับขี่ และผู้นั้นยอมรับว่า ตนเป็นผู้ขับขี่
  • ถ้าไม่มีใครรับว่าเป็นผู้ขับขี่ เจ้าของหรือผู้ครอบครอง ต้องหาหลักฐานมายืนยันให้ได้ว่าไม่ได้ขับขี่จริง
    2. เจ้าของหรือผู้ครอบครอง เป็นนิติบุคคล
  • ให้ผู้แทนของนิติบุคคลนั้น แจ้งชื่อ ที่อยู่ และหลักฐาน ต่อพนักงานสอบสวน ว่าใครเป็นผู้ขับขี่ ในขณะที่พบการกระทำผิด ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับใบสั่ง ถ้าไม่แจ้งนิติบุคคลนั้น มีโทษปรับในอัตรา 5 เท่าของโทษปรับสูงสุด ที่บัญญัติไว้สําหรับความผิดนั้น

ใบสั่ง2

วิธีชำระค่าปรับ

  • ชำระที่ สถานีตํารวจ หรือหน่วยงานที่ออกใบสั่ง หรือ สถานีตํารวจทุกท้องที่ทั่วประเทศ
  • ชําระโดยส่งธนาณัติ หรือตั๋วแลกเงินของธนาคาร ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน พร้อมสําเนาใบสั่ง (มีผลสมบูรณ์ เมื่อมีการเรียกเก็บเงินแล้ว และผู้รับได้รับใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์)
  • ชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ ATM, INTERNET BANKING หรือหน่วยบริการรับชําระเงินที่มีเครื่องหมาย PTM (หลังจาก 2 วัน ที่ได้รับใบสั่ง)

บทลงโทษ

  • ผู้ขับขี่ต้องถูกตัดคะแนนความประพฤติ ในการขับรถ
  • ถ้าไม่ชําระค่าปรับ ภายในเวลาที่กําหนด โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

ก่อนหน้านี้  ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง การกำหนดจำนวน ค่าปรับ ตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 พ.ศ. 2563 โดยมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา

ใบสั่ง3

ประกาศดังกล่าวจะมีการกำหนดลักษณะความผิดในออก ค่าปรับ ทั้งสิ้น 17 ลักษณะ 155 ฐานความผิด โดยจะมีการปรับขั้นต่ำ 200 บาทจนถึงสูงสุด 1,000 บาท

อัตราค่าปรับจราจรปี 2563 ที่น่าสนใจ

  • ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย มิให้ใช้บังคับแก่ภิกษุสามเณร นักพรต นักบวช ผู้ นับถือลัทธิศาสนาที่ใช้ผ้าโพกศรีษะตามประเพณีนิยม

อัตราโทษ : ปรับไม่เกิน 500 บาท ลดลงเหลือ 400

  • โดยสารรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย

อัตราโทษ : ปรับไม่เกิน 500 บาท ลดลงเหลือ 400

  • นำรถยนต์ที่เครื่องยนต์ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่นควันดำ ละอองเคมี เกินเกณฑ์ที่อธิบดีกำหนดมาใช้ในทาง เดินรถ

อัตราโทษ : ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

  • ขับรถไม่ปฏิบัติตามสัญญาณจราจร หรือเครื่องหมายจราจรที่ได้ติดตั้งไว้

อัตราโทษ : ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ลดลงเหลือ 500

  • ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง

อัตราโทษ : ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ลดลงเหลือ 500

  • ขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร เว้นแต่รถเข็นสำหรับทารก คนป่วย หรือคนพิการ

อัตราโทษ : ปรับตั้งแต่ 400- 1,000 บาท ลดลงเหลือ 500

  • ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด

อัตราโทษ : ปรับตั้งแต่ 200 – 500 บาท เพิ่มเป็น 500 บาทราคาเดียว

  • ใช้สัญญาณไฟวับวาบผิดเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด

อัตราโทษ : ปรับไม่เกิน 500 บาท

  • ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น

อัตราโทษ : จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo