แคนาดาเตือนภัย “ฝอยละอองขนาดเล็ก” ลอยค้างในอากาศ แพร่ โควิด-19 ได้ ย้ำต้องใส่หน้ากากอนามัย 3 ชั้นป้องกัน
สำนักสาธารณสุขแคนาดา (PHAC) เปิดเผยว่า โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถแพร่ระบาดผ่านฝอยละอองในอากาศ (airborne droplet) โดยสำนักฯ เพิ่งแก้ไขแนวทางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
“เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ที่ก่อโรคโควิด-19 แพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านฝอยละอองจากระบบทางเดินหายใจและละอองลอยที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ติดเชื้อไอ จาม ร้องเพลง ตะโกน หรือพูด”
“ฝอยละอองมีหลายขนาด ตั้งแต่ฝอยละอองขนาดใหญ่ที่ตกลงสู่พื้นใกล้ตัวผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว (ภายในไม่กี่วินาทีหรือนาที) จนถึงฝอยละอองขนาดเล็ก ซึ่งบางครั้งถูกเรียกว่าละอองลอย (aerosol) ที่ลอยค้างอยู่ในอากาศเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมบางประเภท”
“ฝอยละอองหรือละอองลอยที่มีเชื้อไวรัสอาจสัมผัสโดยตรงกับเยื่อเมือกในจมูก ปาก หรือตาของบุคคลอื่น หรือถูกสูดเข้าไปในจมูก ปาก ทางเดินหายใจ และปอด”
“เชื้อไวรัสอาจแพร่ระบาดสู่บุคคลอื่นที่จับพื้นผิวหรือสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสติดอยู่ และจับปาก จมูก หรือตาต่อโดยไม่ล้างมือ”
ขณะเดียวกันเทเรซา แทม หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของแคนาดา กระตุ้นชาวแคนาดาสวมหน้ากากที่มีความหนา 3 ชั้น เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19
“นี่เป็นเหตุผลที่ชาวแคนาดาต้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์ 3 ประเภท ได้แก่ การอยู่ในพื้นที่ปิดที่ไม่สามารถระบายอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ พื้นที่ที่มีคนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก และพื้นที่คับแคบหรือมีผู้คนแน่นขนัดจนไม่สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้”
ก่อนหน้านี้แนวทางข้างต้นระบุว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สามารถแพร่ระบาดผ่านการสูดฝอยละอองจากระบบทางเดินหายใจเข้าไปในร่างกาย การจับพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัส และการทักทายเช่นการจับมือหรือกอดเท่านั้น
ทั้งนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ รายงานว่าแคนาดามีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมอยู่ที่ 253,482 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 10,432 ราย เมื่อนับถึง 10.24 น. ของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ตามเวลาประเทศไทย
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดไทม์ไลน์ ‘หนุ่มอินเดีย’ ติดโควิดที่กระบี่ ตรวจซ้ำไม่พบเชื้อ
- ชาวเดนมาร์กร่วม 200 คนติดโควิด-19 ‘กลายพันธุ์’ จากตัวมิงค์ ชี้! ไวรัสแกร่งขึ้น
- ‘เศรษฐกิจ-โควิด-เชื้อชาติ’ ปัจจัยชี้ขาด คนอเมริกันเลือกประธานาธิบดี
