โซเชียลมีเดียชื่อดัง “เฟซบุ๊ก” เผยโดนแฮคเกอร์เจาะระบบ กระทบบัญชีผู้ใช้งานมากถึง 50 ล้านบัญชี
เฟซบุ๊ก เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (28 ก.ย.)ว่า ได้ตรวจพบการเจาระบบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (25 ก.ย.) และได้แจ้งเรื่องนี้ต่อสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) แล้ว
การตรวจสอบพบว่า แฮคเกอร์จะสามารถเข้าควบคุมบัญชีผู้ใช้งานได้ ดังนั้น บริษัทจึงได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการล็อกเอาท์บัญชีผู้ใช้งานที่มีความเสี่ยงมากกว่า 90 ล้านแบบอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไว้ก่อน
“เรื่องนี้เป็นประเด็นด้านการรักษาความปลอดภัยที่ร้ายแรงอย่างมาก และเรากำลังจัดการกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง” มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอเฟซบุ๊ก ระบุ
โดยทางเว็บไซต์ Newsroom.fb.com ได้มีการชี้แจงสถานการณ์ล่าสุดว่า มีแอคเคาน์เฟซบุ๊กที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวประมาณ 50 ล้านแอคเคาน์ และตอนนี้ทางบริษัทได้แก้ไขจุดบกพร่องนั้นเรียบร้อยแล้ว และทางบริษัทได้ทำการรีเซ็ทโทเค็นของทั้ง 50 ล้านแอคเคาน์ที่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่ดังกล่าว จึงทำให้ผู้ใช้งานต้องหลุดออกจากระบบและต้องทำการล็อกอินเข้ามาใหม่ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า มีการรีเซ็ทอีก 40 ล้านแอคเคาน์ที่อาจมีความเสี่ยงด้วย ส่งผลให้มีผู้ใช้งานที่ต้องล็อกอินกลับเข้ามาในระบบใหม่ทั้งสิ้น 90 ล้านแอคเคาน์
นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังได้ปิดฟีเจอร์ “View As” ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาลงเป็นการชั่วคราวด้วย พร้อมกับระบุว่า ตอนนี้ทางบริษัทอยู่ระหว่างสืบหาต้นตอว่าความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร รวมถึงยังไม่ทราบว่าผู้บุกรุกเป็นใคร แต่ถ้าพบว่ามีแอคเคาน์ที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติม ก็จะมีการรีเซ็ทโทเค็นใหม่ทันที
สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการล็อกอินเข้าระบบอีกครั้ง เฟซบุ๊กบอกว่า สามารถติดต่อเข้าไปได้ที่ Help Center
วันเดียวกันนี้ ยังมีรายงานว่า แฮคเกอร์ไต้หวันอ้างเจอบั๊ก และเขามีความคิดที่จะลบบัญชีเฟซบุ๊กของซักเคอร์เบิร์ก
แฮคเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า ฉาง ฉี หยวน ระบุว่า พบช่องโหว่ในระบบรักษาความปลอดภัย ที่เปิดทางให้เขาสามารถเข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กของซักเคอร์เบิร์กได้ พร้อมอ้างว่า ได้แจ้งเรื่องการพบปัญหาดังกล่าวให้กับทางเฟซบุ๊กแล้ว
“ผมได้รายงานเรื่องบั๊กไปยังเฟซบุ๊ก และผมจะแสดงให้เห็นเมื่อได้รับการสนับสนุนจากเฟซบุ๊ก”
ก่อนหน้านี้ ฉางเคยประกาศบนโซเชียลมีเดียว่า เขาจะถ่ายทอดสดความพยายามที่จะลบบัญชีเฟซบุ๊กของซีอีโอบริษัทเฟซบุ๊กให้ได้ดูกัน แต่หลังจากได้รับความสนใจไปทั่วโลก เขาก็ตัดสินใจยกเลิกแผนการดังกล่าว
“ยังมีคนมากมาย ที่ตั้งคำถามถึงความสามารถของผม แม้กระทั่งหลังจากที่ผมพบบั๊กจำนวนมาก และได้รับการสนับสนุนจำนวนหนึ่ง แต่ผมไม่ควรที่จะพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการไปเล่นกับบัญชีของซักเคอร์เบิร์ก”
รายงานของบลูมเบิร์ก ระบุว่า เป็นเรื่องปกติที่ผู้คลั่งไคล้ไซเบอร์ไล่ตั้งแต่อินเดีย มาจนถึงสหรัฐ จะตรวจพบช่องโหว่บนเว็บไซต์ และซอฟต์แวร์ของบริษัทต่างๆ และได้รับเงินรางวัลมานิดหน่อย
“แต่เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาอย่างมาก ที่แฮคเกอร์ประเภทไวท์ แฮต จะมาทำเช่นนี้ให้ดูตามเวลาจริง”
