World News

ชาวเดนมาร์กร่วม 200 คนติดโควิด-19 ‘กลายพันธุ์’ จากตัวมิงค์ ชี้! ไวรัสแกร่งขึ้น

ชาวเดนมารก์กว่า 200 คนติดเชื้อ โควิด-19 “กลายพันธุ์” จากตัว มิงค์ ผู้เชี่ยวชาญชี้เรื่องนี้ร้ายแรง! ไวรัสเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม “โปรตีนหนาม” จนเจาะเข้าเซลล์มนุษย์ได้

สถาบันเซรั่มแห่งเดนมาร์ก (SSI) เปิดเผยว่า ตรวจพบประชาชนติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์และมีต้นตอจากฟาร์มมิงค์ท้องถิ่น จำนวน 214 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนที่แบ่งเป็น 5 กลุ่ม

โดยเชื้อไวรัสในผู้ป่วย “กลุ่มก้อนที่ 5” ที่มีปัญหามากที่สุด ไวรัสอาจใช้ “โปรตีนหนาม” (spike protein) ของมันต้านทานโปรตีนภูมิคุ้มกัน (แอนติบอดี) ของร่างกายมนุษย์

มิงก์ มิงค์

“นี่ถือเป็นเรื่องร้ายแรง เนื่องจากอาจหมายความว่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในอนาคตจะมีประสิทธิภาพต้านการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ต่างๆ น้อยลง” สถาบันฯ ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์

“เดนมาร์กพบการระบาดของโรค โควิด-19 ในฟาร์มมิงค์ 216 แห่ง เมื่อนับถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน” สถาบันฯ กล่าว “เราพบผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่ กลายพันธุ์ จาก มิงค์ แล้ว 214 ราย จากการทดสอบตัวอย่าง 5,102 รายการ ระหว่างสัปดาห์ที่ 24 ถึงสัปดาห์ที่ 42 หรือตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนตุลาคม เมื่อมีการระบาดของโรคโควิด-19 ในมิงค์”

สิ่งที่สถาบันฯ กังวลเป็นพิเศษคือ ไวรัสโคโรนากลายพันธุ์จากมิงค์ในผู้ป่วย “กลุ่มก้อนที่ 5” มีความต้านทานต่อแอนติบอดีเพิ่มขึ้น เนื่องจาก “โปรตีนหนาม” ของเชื้อไวรัสฯ เปลี่ยนแปลงตัวเองจนสามารถเจาะเข้าสู่เซลล์ในร่างกายมนุษย์ได้

“มีการตรวจพบว่าผู้ป่วย ‘กลุ่มก้อนที่ 5’ ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เฉพาะ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของ ‘โปรตีนหนาม’ พร้อมกัน 4 ครั้ง โดยเป็นเชื้อไวรัสฯ กลายพันธุ์ที่พบในฟาร์มมิงค์ของภูมิภาคนอร์ธ จัตแลนด์ จำนวน 5 แห่ง และในตัวอย่างจากผู้ป่วย 12 รายการ”

ข้อวิตกกังวลที่ว่า ความไวต่อแอนติบอดีจากวัคซีนอาจลดลงนั้นเดิมทีเป็นเพียงเรื่องทางทฤษฎี แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องจริงแล้ว เมื่ออ้างอิงผลการทดลองของสถาบันฯ ที่ออกครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน

หน่วยงานสาธารณสุขของเดนมาร์กรายงานการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาในมิงค์ต่อ องค์การอนามัยโลก (WHO) แล้ว

ด้านเมตต์ เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก ประกาศเมื่อวันพุธ (4 พ.ย. 63) ว่า การกำจัด มิงค์ เลี้ยงในฟาร์มทั่วเดนมาร์กราว 17 ล้านตัวคือเรื่องจำเป็น เพราะมีความเสี่ยงเชื้อไวรัส โควิด-19 กลายพันธุ์ในมิงค์อาจแพร่สู่มนุษย์ได้

ขณะที่วันถัดมา (5 พ.ย. 63) เฟรเดอริกเซนประกาศบังคับใช้ข้อจำกัดพิเศษที่ล็อกดาวน์ 7 เทศบาลนครของภูมิภาคนอร์ธ จัตแลนด์ ซึ่งมีฟาร์มมิงค์ตั้งอยู่ 1,137 แห่ง โดยตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2563

ร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ จะปิดให้บริการ กิจกรรมกีฬาและกิจกรรมทางวัฒนธรรมในร่มจะถูกยกเลิก ส่วนระบบขนส่งสาธารณะทุกรูปแบบจะปิดให้บริการด้วย

โควิด-19 สหรัฐ

รายงานการป่วยโควิด-19 ของตัวมิงค์ยังถูกพบในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐ เนเธอร์แลนด์ และสเปน โดยในเดือนมิถุนายน 2563 หน่วยงานในประเทศต่างๆ ได้สังหารมิงค์หลายแสนตัวด้วยการรมควัน เนื่องจากกังวลว่ามิงค์อาจเป็นต้นตอการแพร่กระจายไวรัสไปยังสัตว์เลี้ยงอื่นในฟาร์ม แม้กระทั่งมนุษย์

ในสหรัฐอเมริกา กรมการเกษตร การค้า และการคุ้มครองผู้บริโภคของวิสคอนซิน ยืนยันเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2563 ว่า มีมิงค์มากกว่า 2,000 ตัวที่ตายด้วยโรค โควิด-19

“ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าพวกสัตว์ รวมถึงตัวมิงค์ มีบทบาทสำคัญในการแพร่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไปสู่มนุษย์” กรมแถลงต่อสื่อในขณะนั้น “อย่างไรก็ตาม มนุษย์ที่ติดเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายไปสู่ตัวมิงค์และสัตว์อื่นๆ ได้ จึงขอแนะนำให้ผู้ต้องสงสัยหรือได้รับผลยืนยันว่าติดเชื้อแล้ว หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง”

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการการขนสัตว์แห่งสหรัฐฯ (Fur Commission USA) ซึ่งเป็นสมาคมผู้เลี้ยงมิงค์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ระบุว่า สหรัฐมีฟาร์มมิงค์อย่างน้อย 245 แห่งใน 22 รัฐ

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo