Economics

ยืนยันตัวตน ‘คนละครึ่ง’ ไม่ผ่าน แก้ไขได้ง่ายๆ ผ่านตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย

ยืนยันตัวตน “คนละครึ่ง” ไม่ผ่าน มีวิธีแก้ไขได้ง่ายๆ เพียงมองหาตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย

ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของเมื่อวานนี้ (6 พ.ย. 63) ธนาคารกรุงไทย ได้เพิ่มตัวช่วยใหม่ สำหรับผู้ที่ยืนยันตัวตนโครงการ “คนละครึ่ง” ไม่ผ่าน

โดยประชาชนสามารถแก้ไขปัญหาได้เองง่ายๆ ที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย รุ่นใหม่สีเทา ไม่ต้องเดินทางไปยังสาขา

123490589 10160548812548916 4974853236180732190 o 1

แก้ปัญหา ยืนยันตัวตน “คนละครึ่ง” ไม่ผ่าน

  • เปิดแอพพลิเคชั่น Google Map แล้วพิมพ์ ATM กรุงไทย ยืนยันตัวตน” เพื่อค้นหาตู้ ATM รุ่นใหม่สีเทาของธนาคารกรุงไทย ซึ่งสามารถยืนยันตัวตนได้ จากนั้นนำบัตรประชาชนไปทำรายการที่ตู้ ATM ใกล้เคียง

ยืนยันตัวตน คนละครึ่ง ไม่ผ่าน

  • เมื่อถึงตู้ ATM ธนาคารกรุงไทยแล้ว กดเลือกเมนู “ยืนยันตัวตน” โดยไม่ต้องใช้บัตร ATM

123743491 10160548814738916 323595151378095021 o

  • จากนั้นกดยืนยัน “การเป็นเจ้าของบัตรประชาชน”

123511927 10160548815048916 2366683784232838011 o

  • กดยินยอมให้ “เปิดเผยข้อมูลพิสูจน์ตัวตน”

123465662 10160548815248916 651334002715174064 o

  • เสียบบัตรประชาชนและรอให้ระบบตรวจสอบข้อมูลยืนยันตัวตน

123682160 10160548815568916 5273149539350862385 o

  • เมื่อระบบตรวจสอบเสร็จนำบัตรประชาชนออกและดำเนินการต่อบนแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง

123712900 10160548815953916 4144098175806349421 o

สำหรับ คนละครึ่ง เป็นโครงการที่รัฐบาลช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ในอัตรา 50% ผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง จำกัดสิทธิไม่เกิน 150 บาทต่อวัน สูงสุด 3,000 บาทตลอดโครงการ ผู้ลงทะเบียนสามารถใช้สิทธิได้ในเวลา 06.00-23.00 น.และไม่หักสิทธิหากใช้ไม่หมดในแต่ละวัน

คนละครึ่ง

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการที่ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งครบ 10 ล้านคนแล้ว เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 โดยข้อมูลล่าสุดปรากฏว่ามีผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิและไม่เริ่มใช้สิทธิภายในกำหนด 14 วัน จึงได้มีการเริ่มตัดสิทธิตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป มีจำนวน 1,967,046 สิทธิ

อย่างไรก็ตาม ยอดลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ และสิทธิที่ถูกตัดในแต่ละวันจะถูกรวบรวมนำมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนอีกครั้ง

ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดให้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com จนกว่าจะครบจำนวน ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งมาก่อน และ ผู้ประสงค์จะใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง จะไม่สามารถใช้สิทธิมาตรการช้อปดีมีคืน

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียน เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5.23 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 7,161,488 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 7,629 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 3,888 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 3,741 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 216 บาทต่อครั้ง

โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ

แจกเงิน 3000 ๒๐๐๙๒๒

ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่ง ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งประชาชนและร้านค้า โดยส่วนใหญ่ ระบุว่า การใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชั่นใช้งานได้ง่ายสะดวกและรวดเร็ว ช่วยกระตุ้นยอดขายของร้านค้ารายย่อยได้จริง อีกทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันให้ประชาชนได้มาก

จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ เตรียมเปิด ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ 2 ก่อนจำนวนสิทธิจะหมดลงอีกครั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายังสามารถลงทะเบียนได้ต่อเนื่องผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ในช่วงเวลา 06.00 – 23.00 น. หรือ ณ สาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย

ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนที่รัฐร่วมจ่ายให้ร้านค้ายังคงจ่ายทุกวันทำการถัดไป และเร่งพิจารณาแนวทางการจ่ายเงินทุกวันเพื่อมิให้กระทบต่อสภาพคล่องของผู้ประกอบการรายย่อยที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ดี หากกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยตรวจสอบพบการใช้จ่ายของร้านค้าหรือประชาชนที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ จะมีการระงับการใช้แอพพลิเคชั่นและระงับการจ่ายเงินร้านค้าทันที อีกทั้งผู้ที่มีส่วนในการสนับสนุนการกระทำความผิดจะมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย

รองโฆษกกระทรวงการคลัง ได้ย้ำว่า ขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ อย่าให้มีการดำเนินการไปในทางมิชอบ เพื่อมิให้ทำลายบรรยากาศของการดำเนินโครงการคนละครึ่ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo