World News

ยักษ์ใหญ่พลังงานถดถอย ‘เชลล์’ จ่อปิดโรงกลั่นน้ำมันสหรัฐ พันชีวิตเสี่ยงตกงาน

ยักษ์ใหญ่พลังงานถดถอย เข้าสู่ยุคปรับตัว “เชลล์” ประกาศ ปิดโรงกลั่นน้ำมัน ในรัฐลุยเซียนา มุ่งสู่ธุรกิจสีเขียว กว่าพันชีวิตเสี่ยงตกงาน

วานนี้ (5 พ.ย. 63) เชลล์ (Shell) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานระดับโลก ประกาศแผนการปิดโรงกลั่นน้ำมันในคอนเวนต์ รัฐลุยเซียนาของสหรัฐในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยการตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่ในอนาคตที่ต้องการลดจำนวนโรงกลั่นเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ “ธุรกิจคาร์บอนต่ำในอนาคต”

“หลังบริษัทสำรวจทุกแง่มุมของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงสภาพการเงินแล้ว เราจึงตัดสินใจว่าจะปิดโรงกลั่นดังกล่าว” บริษัทระบุในแถลงการณ์ พร้อมเผยว่า บริษัทจะช่วยพนักงานหางานในโรงงานอื่นๆ ของเชลล์หากเป็นไปได้

เชลล์ ปิดโรงกลั่นน้ำมัน

“เชลล์ จะรับรองความปลอดภัยและแสดงความรับผิดชอบต่อการ ปิดโรงกลั่นน้ำมัน ครั้งนี้ โดยให้ความสำคัญกับผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุด ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนพนักงานในโรงงานคอนเวนต์ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ด้วยการช่วยหางานตำแหน่งอื่นๆ ภายในบริษัท หรือเปลี่ยนไปทำงานอื่นๆ นอกบริษัท” แถลงการณ์ระบุ

ทั้งนี้ โรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้มีพนักงานประจำเกือบ 700 คน และพนักงานสัญญาจ้างอีก 400 คน

 

อีก 2 ปี ลดพนักงานรวม 9 พันคน มุ่งสู่ธุรกิจสีเขียว

รอยัล ดัตช์ เชลล์ บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่จากยุโรป กล่าวถึงทิศทางของบริษัทไว้ก่อนหน้านี้ว่า เชลล์จะปรับลดพนักงานลง 7,000-9,000 ตำแหน่งภายในปี 2565 คิดเป็นกว่า 10% ของพนักงานทั้งหมดราว 8.6 หมื่นคน เพื่อปรับเปลี่ยนบริษัทให้เป็นผู้ผลิตพลังงานที่มีความยั่งยืนมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวรู้จักกันในชื่อ “Project Reshape” ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการลดต้นทุนและการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ โดยปัจจุบันเชลล์เป็นบริษัทน้ำมันที่ยิ่งใหญ่อันดับ 3 ในซีกโลกตะวันตกและมีมูลค่าราว 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ เชลล์มีแผนจะลดจำนวนโรงกลั่น น้ำมัน ให้เหลือน้อยกว่า 10 แห่ง จาก 55 แห่ง เมื่อ 15 ปีที่แล้ว และบริษัทจะหันมาให้ความสำคัญกับการผลิตพลังสะอาด เช่น ลม แสงอาทิตย์ รวมถึงการลงทุนในเชื้อเพลิงชีวภาพและแก๊สไฮโดรเจนมากขึ้น

ภาพเฟซบุ๊ก shell

ลดเงินปันผลครั้งแรก นับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

ในเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา เชลล์ยังได้ประกาศลดการจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยบริษัทได้ลดการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสลง 2 ใน 3 จาก 47 เซ็นต์ เหลือ 16 เซ็นต์ เริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการล็อกดาวน์ ผู้คนไม่เดินทาง ความต้องการน้ำมันทั่วโลกจึงดิ่งเหว

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังรายได้สุทธิในไตรมาสแตกของบริษัทลดลง 46% เหลือ 2.9 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ รอยัล ดัตช์ เชลล์ ได้ชะลอโปรมแกรมการซื้อหุ้นคืนในงวดถัดไปและเช่าถังเก็บ น้ำมัน เพื่อเก็บกำลังการผลิตส่วนเกิน รวมถึงลดกิจกรรมในธุรกิจการกลั่นลงมากกว่า 40% เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการน้ำมันที่ลดลง

ผู้บริหารของรอยัล ดัตช์ เชลล์ ยังเตือนว่า “เมื่อมองไปข้างหน้ายังคงเห็นภาพเศรษฐกิจมหภาคที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง” โดยเชลล์จะดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและสนับสนุนความแข็งแกร่งของงบดุล

ยักษ์ใหญ่ น้ำมัน “เอ็กซอน” เพิ่งประกาศเลิกจ้าง 1,900 ตำแหน่ง

สำหรับบริษัท น้ำมัน และพลังงานยักษ์ใหญ่อื่นๆ ก็มีความเคลื่อนไหวในทิศทางที่คล้ายกัน

โดยสัปดาห์ที่แล้ว เอ็กซอน โมบิล เพิ่งประกาศว่าจะปลดพนักงาน 1,900 ตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสำนักงานของเมืองฮิวสตัน ในรัฐเท็กซัส รายงานข่าวสารของบริษัทระบุว่า ทางบริษัทคาดว่ามีแรงงานประมาณ 1,900 คนที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับลดพนักงานด้วย “โปรแกรมสมัครใจ และไม่สมัครใจ”

“บริษัททราบว่าการตัดสินใจนี้จะกระทบลูกจ้าง และครอบครัวลูกจ้าง จึงออกโปรแกรมนี้มาหลังได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและไตร่ตรองอย่างรอบคอบ” รายงานระบุ

ก่อนหน้านี้บริษัทเอ็กซอนโมบิลเพิ่งประกาศปลดพนักงาน 1,600 ตำแหน่งของบริษัทในเครือในยุโรปในเดือนตุลาคม 2563 โดยในปี 2562 บริษัทซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ในเท็กซัสแห่งนี้มีพนักงานราว 74,900 คน

fig 20 12 2018 11 28 49

ปีนี้ เอ็กซอน โมบิล ยังได้แจ้งชะลอการลงทุนโครงการปิโตรเคมีแห่งอนาคตมูลค่า 3 แสนล้านบาทในประเทศไทยออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานและ น้ำมัน อื่นๆ เช่น บีพี (BP) และ อีควิน๊อกซ์ (Equinor) ต่างก็ปรับลดการจ่ายเงินปันผลในปีนี้ลง เพื่อลดต้นทุน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo