คมนาคม สั่ง รฟม. ปรับรูปแบบลงทุน ระบบขนส่งมวลชน ภูเก็ต หลังพบ รถไฟฟ้ารางเบา ต้นทุนสูง หวั่นไม่คุ้มค่าการลงทุน ศึกษา บีอาร์ที ใช้พลังงานไฟฟ้า
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ให้นโยบาย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ศึกษาปรับปรุงรูปแบบ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง จากเดิมที่จะลงทุน รถไฟฟ้ารางเบา หรือ Tram เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูง ขณะที่การลงทุนต้องดูในเรื่องของความคุ้มค่า และผลตอบแทนด้วย
ด้าน นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม รายงานว่า มีเทคโนโลยีอื่นที่สามารถดำเนินการแทนรถแทรมป์ที่เป็นล้อเหล็กได้ เช่น ปรับเป็นรถล้อยาง ซึ่งมีเทคโนโลยีที่มีต้นทุนต่ำกว่า คือระบบรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) โดยใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน เป็นต้น
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เป้าหมายของการแก้ปัญหาจราจรที่จังหวัดภูเก็ต คือ สร้างระบบขนส่งมวลชนที่ขนคนและทำให้เดินทางเร็วขึ้น ซึ่งรถ BRT เป็นทางเลือกหนึ่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า การก่อสร้างทำได้ง่ายกว่า โดยใช้พื้นที่เกาะกลางถนน ปรับปรุงผิวทางและแบ่งกั้นช่องทางให้ชัดเจน และในอนาคตหากมีจำนวนผู้โดยสารมากขึ้น สามารถพ่วงต่อรถโดยสารเพิ่มได้
“ยังมีเวลาในการปรับแก้ไข โดยตามแผนจะมีการประมูลและก่อสร้างในปี 2564 ส่วน ทีโออาร์ จะไม่มีการปิดกั้นการนำเสนอของเอกชน โดยสุดท้ายจะตัดสินกันที่เทคนิคและความคุ้มค่าการลงทุน”นายศักดิ์สยาม กล่าว
สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กม. มูลค่า 35,201 ล้านบาท คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ที่มีนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เป็นประธาน ได้มีมติอนุมัติผลการศึกษาเมื่อ วันที่ 21 ตุลาคม 2563 โดยอยู่ในขั้นตอนเสนอกระทรวงคมนาคม
จากนั้นจะเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และ คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) โดยตามแผนงาน คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติได้ในเดือนตุลาคม 2564 และคาดว่าจะเปิดประมูล ในช่วงต้นปี 2565 พร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2569
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ครม.รับทราบแนวทางพัฒนาท่องเที่ยว ‘สุราษฎร์-กระบี่-ภูเก็ต’
- ครม.ไฟเขียว ‘ตั้งศูนย์สาธารณสุข -ร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียน’
- เปิดประมูล รถไฟฟ้ารางเบา ภูเก็ต มูลค่า 3.5 หมื่นล้าน มีนาคม 65