รู้ไว้ดีกว่า! ผู้ประกันตน “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิฤติ” รักษาได้ทุกโรงพยาบาล ไม่ต้องสำรองจ่าย จากนั้นแจ้งโรงพยาบาลประกันสังคมรับช่วงต่อภายใน 72 ชั่วโมง
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลได้กำหนดให้ดำเนินการนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่” (UCEP) เพื่อลดความเลื่อมล้ำด้านการรักษาพยาบาลของประชาชนในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน โดยเริ่มดำเนินโครงการ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 เป็นต้นมา
วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนได้ทุกแห่ง เป็นการบริการการแพทย์ฉุกเฉินอย่างทันท่วงที โดยผู้ป่วยฉุกเฉินไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรกเข้ารักษาจนพ้นภาวะวิกฤต หรืออาการที่แพทย์ประเมินแล้วเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง (นับรวมวันหยุด) ตามหลักเกณฑ์การคัดแยกผู้ป่วยอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตเข้าตามหลักเกณฑ์ดังนี้
บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยกะทันหัน ซึ่งมีภาวะคุกคามต่อชีวิต เช่น หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัด แบบปัจจุบันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด มีอาการอื่นร่วมที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิตและระบบสมองที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต เป็นต้น
ผู้ประกันตนที่ได้รับการประเมินอาการให้เป็นเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติดังกล่าว มีสิทธิเข้ารับการรักษาได้ “ทุกโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด” จนพ้นภาวะวิกฤต หรือสามารถเคลื่อนย้ายได้ แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง (นับรวมวันหยุด) “โดยไม่ต้องสำรองจ่าย”
จากนั้นขอให้ผู้ประกันตน หรือโรงพยาบาลที่รับการรักษา หรือผู้เกี่ยวข้อง โปรดแจ้งโรงพยาบาลที่ผู้ประกันตนสังกัดอยู่โดยเร็ว เพื่อจะได้ดำเนินการรับช่วงการรักษาหรือให้บริการทางการแพทย์กับผู้ประกันตนต่อไป เพียงใช้บัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว
ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวกหรือสายด่วนประกันสังคม 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ’30 บาท รักษาทุกที่’ เพิ่ม 4 สิทธิบัตรทอง คนไทยต้องเป็นวีไอพี ทุกโรงพยาบาล
- เปิดตัวแพลตฟอร์มจองคิวใช้บริการ ‘บัตรทอง’ 16 รายการ ผ่านแอพฯ เป๋าตัง
- ราชกิจจาฯ ประกาศ ให้ ‘โรงพยาบาลยศเส’ ล้มละลาย