Economics

คลายล็อก! ทำเงินเฟ้อเดือนต.ค.ติดลบลดลง คาดทั้งปีติดลบ 1.5-0.7%

คลายล็อกโควิด! ทำอัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคมติดลบแค่เล็กน้อย คาดทั้งปีติดลบ 1.5-0.7% มองจีดีพีปีนี้ติดลบ 7.6-8.6%

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ อัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคม 2563 เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนลดลง 0.50% ดีขึ้นจากเดือนก่อนเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มอาหารสด ความต้องการสูง โดยเฉพาะผักสดที่มีความผันผวน เนื่องจากฝนตกชุกจากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่

ขณะที่ราคากลุ่มพลังงานเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ยังต่ำกว่าปีก่อน รวมถึงความต้องการสินค้าสุกรในตลาดต่างประเทศสูงขึ้น ส่วนสินค้าอุปโภค-บริโภคอื่นๆ ยังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับปริมาณสินค้า ความต้องการ และการส่งเสริมการขาย โดยสินค้า โดยรวมไม่ได้มีการปรับขึ้นไปมากมีเพียงผักสดขึ้นเล็กน้อยตามฤดูกาล ไม่ผิดปกติไปมากนัก

เงินเฟ้อ5111

ทั้งนี้ เหตุผลหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อยังติดลบต่อเนื่องแต่น้อยลง มีปัจจัยมาจากการคลายล็อกภาคธุรกิจต่างๆ จากปัญหาความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 แต่ขณะนี้ความกังวลดังกล่าวน้อยลงส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมเริ่มปรับดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เริ่มมีความต้องการสูงขึ้น เห็นได้จากอัตราเงินเฟ้อเริ่มติดลบน้อยลง

ขณะที่ กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ การจัดโปรโมชั่นด้านราคาสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ เริ่มลดน้อยลง แม้ว่ามาตรการของรัฐที่ออกมากระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนก็ไม่ได้ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นมากนัก ส่งผลทำให้เงินเฟ้อทั่วไป 10 เดือน (ม.ค.- ต.ค.) 2563 ลดลง 0.94% เท่านั้น

ทั้งนี้ สนค. มองว่า จากปัจจัยลบด้านโควิดที่ยังเป็นตัวฉุดความกังวลต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนและกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยรวมอยู่บ้าง ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อในช่วง 2 เดือนสุดท้ายปี 63 คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยแต่ละเดือนยังคงติดลบแต่จะไม่มาก โดยจะมาจากมาตรการภาครัฐที่ออกมาทั้งการให้เงินสู่ประชาชนบางกลุ่มจะทำให้กระตุ้นภาคเศรษฐกิจในการจับจ่ายใช้สอยในด้านต่างๆอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินเฟ้อปีนี้จะติดลบ 1.5-0.7% โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 1.1% ซึ่งมีปัจจัย คือ จีดีพีของประเทศติดลบ 7.6-8.6% อัตราแลกเปลี่ยน 30.5 – 32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 35 – 45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

123395262 2690630464584566 4134634895534372149 o

ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนพฤศจิกายน 2563 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่า จะหดตัวในอัตราที่น้อยลง ตามความต้องการอุปโภคบริโภค ภายในประเทศ ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในรูปแบบต่างๆ ทั้งการเพิ่มวันหยุดยาว โครงการเที่ยวด้วยกัน โครงการช้อปดีมีคืน และโครงการคนละครึ่ง ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบ ในช่วงที่เหลือของปี

นอกจากนี้ ราคาอาหารสดบางชนิด อาทิ เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้สด ยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามปริมาณผลผลิตและความต้องการของตลาด ประกอบกับฐานราคาในปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ราคาพลังงาน ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ อาจจะเป็นแรงกดดันที่สำคัญต่อเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิดต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo