จบรายการเดือด! “อุ๊ หฤทัย” จับมือ “ไผ่ ดาวดิน” ฝากถึงจุดแข็งประเทศไทย ด้าน “ไผ่” ขอบคุณความขัดแย้ง บอกถ้าวันนี้ไม่มีเรื่องอารมณ์ วันนี้จะดีมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบรายการ “ถามตรงๆกับจอมขวัญ” ที่ได้เชิญ “อุ๊ หฤทัย” และ “ไผ่ ดาวดิน” มาร่วมดีเบทประเด็น “ไขทางออก” วิกฤตการเมืองไทย จนเกิดเป็นกระแสในโลกโซเชียล เนื่องจากช่วงเวลาในการสัมภาษณ์ทางฝั่งของ “อุ๊” ได้มีการถกเถียงเสียงดังอย่างดุเดือนในรายการ ทำให้ “จอมขวัญ” ต้องรีบควบคุมสถานการณ์ และพยายามได้ให้ทั้งคู่ ได้แสดงความคิดเห็นทางด้านการเมือง
โดยในบางช่วงบางตอนของการดีเบทของทั้งคู่มีการถกเถียงกันในเรื่องของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รวมไปเรื่องของรัฐธรรมนูญปี 60
ไผ่ ดาวดิน กล่าวช่วงหนึ่งในรายการว่า เรามีความคิดคล้ายกันในเรื่องที่ไม่ต้องการรัฐบาลที่มาคอร์รัปชัน แต่สิ่งที่มองคือ ตนตรวจสอบทุกรัฐบาล แต่เมื่อถึงรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ การตรวจสอบเป็นไปอย่างยากลำบาก ประเด็นของผมคือ เรากำลังต่อสู้เพื่อได้มาเพื่อประชาธิปไตย การเลือกตั้งเป็นส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมาประชาชนไม่เคยโดนจับตอนไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ สิ่งที่พี่มองมันต่างกัน รัฐควรส่งเสริมสิทธิมนุษยชน สิ่งที่ผมมอง รัฐบาลที่มาจากเผด็จการ พล.อ.ประยุทธ์ มาจากรัฐประหาร
ขณะที่ อุ๊ หฤทัย ระบุว่า ฟังแล้วเหมือนเห็นตัวเอง เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ปี 2533 และปี 2535 มีการชุมนุม เกิดพฤษภาทมิฬ แต่ปัจจุบันต้องดูว่าที่ผ่านมาไม่ใช่แค่รัฐบาลเกิดการปฏิวัติเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องดูว่ามันมีการฆ่ากัน คนไทยมาฆ่ากัน มีการเผาบ้านเผาเมืองคนถูกยิง มันเกิดความรุนแรง ประเทศมันลุกเป็นไฟ ถ้าคุณอยากจะต้านการทุจริตจริงๆ ต้องสนับสนุนรัฐธรรมนูญปี 60 และนี้คือประชามติคุณจะไม่ได้รับได้ไง
ล่าสุด Thairath ได้มีการเผยคลิป หลังจบรายการ โดย “ไผ่ ดาวดิน” ได้เดินไปไหว้ “อุ๊ หฤทัย” พร้อมยื่นขอจับมือ โดย “อุ๊” ได้ฝากคำพูดขณะที่จับมือกับว่า “อย่าตกเป็นทาสอเมริกา และจุดแข็งของประเทศไทยคือสถาบันพระมหากษัตริย์”
อย่างไรก็ตาม “ไผ่ ดาวดิน” ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบรายการ โดยระบุว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มานั่งฟัง แนวความคิดทางการเมืองที่แตกต่างแบบนี้ ยินดีมาก เราได้เข้าใจความเป็นมนุษย์ เราเข้าใจความคิดทางการเมืองอีกรูปแบบหนึ่ง ที่แตกต่างจากเรา เหมือนเราอยู่คนละโลกเดียวกัน แต่การที่ได้มาพูดคุยแบบนี้ ต้องขอบคุณมาก ที่ทำให้สังคมได้เห็นถึงความขัดแย้งอย่างชัดเจน ทำให้เห็นถึงปัญหาต่างๆ ในสังคมไทย
ความขัดแย้งมันเกิดจากความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้น การที่เรามานั่งคุยในความคิดที่แตกต่างกัน เรานั่งคุยกันได้ หากวันนี้ไม่มีเรื่องอารมณ์วันนี้จะดียิ่งขึ้นมากๆ ไม่จำเป็นต้องชนะหรือแพ้ เราพูดเพื่อเข้าใจความแตกต่าง
ขอบคุณคลิปจาก Thairath
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เลี่ยงได้เลี่ยง! 7 พฤติกรรมเสี่ยง ที่ไม่ควรทำ ระหว่างขับรถ
- เตรียมพร้อม! ‘คนละครึ่ง’ จ่อเปิดลงทะเบียนเก็บตกรับ 3,000 บาท เร็วๆนี้
- หวั่นแตกแยกรุนแรง ‘ตำรวจ-ทหาร’ คุมเข้มป้องกันจลาจลเลือกตั้งสหรัฐ
