Digital Economy

ไนกี้ดิจิทัลรายได้พุ่ง 36% ลุยจับมือ ‘อเมซอน-วีแชท-ทีมอลล์-ฟลิบคาร์ด’

nike AFP
ภาพจากเอเอฟพี

ความพยายามของไนกี้ ในการใช้ดิจิทัลเข้ามาเสริมทัพเริ่มปรากฏผลสำเร็จ โดยผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2562 (สิ้นสุดเมื่อ 31 สิงหาคม 2561) พบว่า บริษัทสามารถทำรายได้แตะ 9.9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 10%

โดยตัวเลขรายได้ที่เติบโตขึ้นนี้ พบการเติบโตในระดับสองหลักจากตลาดต่างประเทศ ส่วนตลาดในอเมริกาเหนือ พบว่ารายได้เติบโต 6% คิดเป็นรายได้สุทธิ 1.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15%

ส่วนที่น่าจับตาของไนกี้คือ การประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างได้ผล โดยพบว่า ไนกี้ดิจิทัลมีอัตราการเติบโต 36% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 (ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีอัตราการเติบโต 41% ลงมาเล็กน้อย)

พาร์ทเนอร์ของไนกี้ที่ดันให้ไนกี้ดิจิทัลเติบโตพบว่ามีหลายแพลตฟอร์ม โดยหลัก ๆ ก็คือ อเมซอน (Amazon) นอกจากนั้น ไนกี้ยังจับมือกับ Jet.com, ทีมอลล์ – วีแชท (จีนแผ่นดินใหญ่) และฟลิปคาร์ด (อินเดีย) ด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าในตลาดขนาดใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตของดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซสูงนั้น ไนกี้มีพาร์ทเนอร์เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะอินเดีย ที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะตลาดอีคอมเมิร์ซจะมีมูลค่าแตะ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2563

นอกจากนั้น ในจีนแผ่นดินใหญ่ ไนกี้ก็มี ไนกี้พลัส เป็นตัวช่วยดึงลูกค้าดิจิทัลเข้าสู่แพลตฟอร์มเช่นกัน

สำหรับร้านค้าปลีกของไนกี้ ก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกันภายใต้แนวคิด ไนกี้ ไลฟ์ (Nike Live) โดยบริษัทได้มีการเปิดตัวร้านค้าแห่งแรกภายใต้แนวคิดนี้ที่เมลโรส ลอสแองเจลลิส สหรัฐอเมริกา

ความพิเศษของร้านค้าดังกล่าวก็คือ จะมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนผลิตภัณฑ์จากไนกี้มาจัดแสดงในร้าน โดยใช้ “ดาต้า” ของลูกค้าเพื่อจะได้มีสินค้าตรงใจไว้รอให้บริการ อีกทั้งยังร่วมกับ แอพพลิเคชันไนกี้พลัส และเอไอที่ใช้จดจำลูกค้าและสามารถทักทายได้เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน โดยไนกี้ระบุว่าจะใช้ร้านนี้เป็นสถานที่ทดสอบความพึงพอใจของผู้บริโภค เพื่อนำไปพัฒนาร้านแฟลกชิปสโตร์ของสาขาที่นิวยอร์ก และเซี่ยงไฮ้ต่อไป

Avatar photo