“กรมอุตุฯ” ประกาศเตือนไทยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ช่วงวันที่ 28 ก.ย.-1 ต.ค.นี้ ชี้ 22 จังหวัดภาคเหนือ-อีสานระวัง!!
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน “ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2561)” ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 28 กันยายน 2561 ระบุช่วงวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2561 บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เริ่มในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
สำหรับพื้นที่ที่คาดว่ามีผลกระทบตามภาคต่างๆ มีดังนี้
วันที่ 28 กันยายน 2561
ภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
วันที่ 29 กันยายน – 1 ตุลาคม 2561
ภาคเหนือ บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ
ภาคกลาง บริเวณ จ.ราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ บริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
