กำลังเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ สำหรับคลิปความยาว 3.04 นาที ของศิลปินดังยุค 90 “เอ็ม-สุรศักดิ์ วงษ์ไทย” ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ โดยมีเนื้อหาใจความว่า “คือคุณแม่พี่อ่ะ เขา…คือคุณแม่พี่นี่ก็รักในหลวงนะ รัชกาลที่ 9 พี่ก็รักท่านนะ คือบางทีเราต้องแยกแยะ แยกแยะให้ออกว่าเรารักเพราะอะไร เราไม่รักเพราะอะไร”
“พี่เห็นด้วยนะ พี่เห็นด้วยในคำว่าประชาธิปไตย เรากำลังเรียกร้องว่าอะไรควรเป็นประชาธิปไตย เป็นยังไง เรารู้บุญคุณกษัตริย์เรา เรารู้ว่าเราเติบโตจากอดีตมาเป็นยังไง เพียงแต่ว่าตอบคำถามเขาหน่อยว่า มันเป็นไปไม่ได้ หรือมันเป็นไปได้ หรืออะไรแค่เนี้ย”
“คือจริงๆ แล้วเราไม่รู้หรอกว่า เงินมหาศาลขนาดนั้น มันอาจจะมีส่วนที่ในข้อมูลที่เรามองไม่เห็นว่ามันต้องถูกเอาไปใช้จ่ายอะไรอย่างจริงๆ มันเลยจุดที่เราแตะไม่ได้ไปแล้ว มันเป็นจุดที่เด็กทุกวันนี้เขาจะแตะแล้ว เขาตั้งคำถามแล้ว แล้วทำไมไม่มีใครตอบเขาแค่นั้นเอง”
“รัฐบาลควรรู้ว่าความรักความศรัทธาไม่อาจเกิดขึ้นได้จากการบังคับ พยายามรักษาศรัทธาของประชาชนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เอาไว้ เพื่อให้สถาบันกษัตริย์ ได้ตั้งอยู่คู่แผ่นดินไทยต่อไป นี่เป็นคำแนะนำจากเรา”
“สำหรับพี่ พี่คิดว่า มันเป็นอีกรุ่นนึงแล้วอ่ะ มันเป็นรุ่นที่เราต้องก้าวไปข้างหน้า ที่ไม่ใช่รุ่นพี่ที่อยู่ในความกลัว หรือความไม่กล้าถาม หรือปล่อยให้สังคมมันเป็นไปแบบนี้ สำหรับตัวพี่มั้ง อย่าเรียกว่ารุ่นพี่ พี่อาจจะมีการเพิกเฉยบ้าง แต่เด็กรุ่นนี้เค้าไม่เอาแล้ว ซึ่งพี่คิดว่ามันดี ถ้าเราฟังกันจริงๆ มันจะมีส่วนที่ดี ที่มันจะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า”
“ถ้าถามว่ากลัวมั้ยที่ออกมาพูดประเด็นนี้ ก็ต้องบอกว่ากลัว เพราะมันมีคนที่พี่รู้จักไม่เห็นด้วยกันอะไรแบบนี้ ก็ต้องยอมรับผลนั้นมั้ง เพราะเราก็ไม่ได้คิดร้ายกับใคร เราคิดว่า เราก็แค่ เราคิดแบบนี้ มันก็ไม่ได้ผิดอะไร”
“ความกล้าของเด็กเนี่ย มันบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ ไปตัดสินด้วยตา อย่าตัดสินด้วยข้อมูล ไปตัดสินด้วยสิ่งที่เห็น ไปตัดสินเรื่องความสนุกของเขา ความที่เขามีพลังของเขา แล้วก็จะได้เอามาสอนให้ตัวเอง เออ เด็กมันกล้าดีว่ะ มันสอนให้เรากล้าดี…”
สำหรับ “เอ็ม-สุรศักดิ์ วงษ์ไทย” เกิดวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2507 ปัจจุบันอายุ 56 ปี สำเร็จการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เข้าสู่วงการเมื่ออายุ 20 ปี โดยรับบทเป็นตัวประกอบในหนังเรื่อง “น้ำพุ” ในปี 2527 ต่อมาจึงได้รับบทแสดงนำเรื่องแรกคือ “ซึมน้อยหน่อย กะล่อนมากหน่อย” ของไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง จึงมีงานแสดงภาพยนตร์ตามมาหลายเรื่อง อาทิ ฉลุย, ม่อก 2 ต้องได้สาม และ กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน ซึ่งเรื่องนี้เองได้รับรางวัลดารานำฝ่ายชายยอดเยี่ยมจากเวทีประกวดภาพยนตร์แห่งชาติครั้งที่ 1 เมื่อปี 2535
สุรศักดิ์ มีผลงานละคร พิธีกร และภาพยนตร์ในเวลาไล่เลี่ยกัน อีกทั้งยังได้ออกผลงานเพลงอัลบั้ม “ตัว M” ของค่ายคีตา เรคคอร์ดส มีเพลงที่ฮิตและจดจำมาจนปัจจุบันคือ “อยู่ตัวอยู่แล้ว”, “ละลาย”, “อยากไปก็ไป”
ทางด้านงานแสดงละครโทรทัศน์ ได้แก่ จ่ากองร้อย, แก้วขนเหล็ก, เขยบ้านนอก (ทั้ง 2 ภาค), บัลลังก์เมฆ รับบทเป็น ปรก เป็นลูกของ ภัทราวดี มีชูธน และ สรพงษ์ ชาตรี หลังประสบความสำเร็จหน้ากล้องแล้ว จึงเริ่มจับงานหลังกล้อง เช่น เป็นครีเอทีฟให้กับพาเมล่า เบาว์เด้น เป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เช่นเรื่อง เสียดาย 2, สุริโยไท (ในเรื่องนี้เป็นเจ้าของมือที่เอื้อมมาสวมหน้ากากให้พระศพของสมเด็จหน่อพุทธางกูร) และกำกับละครเรื่อง เขยบ้านนอก ภาค 2 เป็นต้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หมอเจี๊ยบ เคลื่อนไหวแล้ว! ขอบคุณ เชียร์ ฑิฆัมพร ลั่น แพ้-ชนะไม่สำคัญ
- ผจก.ฟ้าใส ปวีณสุดา ฟาดกลับกองประกวดฯ หลังอนุญาตให้โชว์สัญญาโดยไม่เอาผิด
- แรงดีไม่มีแผ่ว! ใหม่ ดาวิกา ยอดฟอลไอจีพุ่งพรวดแซง ชมพู่-ญาญ่า เบียด อั้ม พัชราภา