Business

หัวใจสำคัญ ‘การมีบ้านเป็นของตัวเอง’ จับความต้องการคนซื้อ แต่ละช่วงวัย

การมีบ้านเป็นของตัวเอง นับเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ และคาดหวังอยากได้บ้านที่ตรงกับความคาดหวัง เพราะการจะซื้อบ้านสักหลังมาครอบครอง ถือเป็นการลงทุนที่สูงไม่น้อย

ดังนั้น การค้นหาที่อยู่อาศัย ให้ตรงกับความต้องการ เป็นหัวใจของ การมีบ้านเป็นของตัวเอง ที่ต้องพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อ ผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือผู้ที่เลือกสร้างบ้านหลังใหม่ ตามแบบฉบับตัวเอง

การมีบ้านเป็นของตัวเอง

นอกเหนือไปจากความจำเป็น หรือความต้องการที่แตกต่างไป ในแต่ละคน ที่นำมาใช้เป็นเกณฑ์ค้นหา หรือเลือกที่อยู่ที่ตอบโจทย์ของแต่ละคน มีปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญอีกมาก ที่ไม่ควรมองข้าม และมีอิทธิพลต่อการเลือกที่อยู่อาศัย ที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ช่วงอายุหรือไลฟ์สไตล์ ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทั้งในด้านสถานะทางการเงิน อาชีพหรือหน้าที่การงาน

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดอสังหาฯ “DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study” ฉบับล่าสุด เกี่ยวกับความต้องการ และความคาดหวัง ของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มอายุ เมื่อมองหาที่อยู่อาศัยให้ตัวเองหรือครอบครัว ดังนี้

กลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 22-29 ปี

ชีวิตหลังเรียนจบ เป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้น บทบาทใหม่ของชีวิต ในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนบทบาทจากนักศึกษา มาเป็นคนทำงาน เริ่มต้นก้าวสู่โลกที่ต้องรับผิดชอบตัวเองอย่างเต็มที่ คนรุ่นใหม่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

การวางแผนด้านอสังหาฯ จึงเป็นเรื่องที่คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเลือกอยู่กับครอบครัวไปก่อน หรือออกมาเช่าคอนโดฯ ใช้ชีวิตส่วนตัวก่อนวางแผนซื้อเองในอนาคต เมื่อมีความพร้อมด้านการเงิน

นอกเหนือไปจากการมองหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ได้อย่างครบครันในที่พัก รวมถึงการเดินทางทั้งไปทำงานหรือสังสรรค์แล้ว พบว่า สาเหตุหลัก ที่ทำให้ประชากรกลุ่มนี้ต้องการซื้อบ้าน คือ

  • ความต้องการพื้นที่ส่วนตัว (62%)
  • ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง (37%)
  • พื้นที่เพิ่มสำหรับลูก / พ่อแม่ (29%)

การมีบ้านเป็นของตัวเอง

กลุ่มวัยทำงาน อายุ 30-39 ปี

กลุ่มคนอายุช่วงนี้ เป็นช่วงที่มีความมั่นคงในหน้าที่การงาน หลายคนเข้าสู่ช่วงสร้างครอบครัว ให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงทางการเงิน ผ่านการวางแผนออมเงิน หรือศึกษาการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น

ผู้บริโภคกลุ่มนี้ จะมีความพร้อมในการซื้ออสังหาฯ เป็นของตัวเองเพื่ออยู่อาศัย และรองรับการขยายครอบครัวในอนาคต โดยพบว่า

  • กลุ่มวัยทำงานมากกว่าครึ่ง (56%) มีมุมมองด้านการซื้อบ้านใหม่ ที่ยังคงเน้นเรื่องพื้นที่ส่วนตัวมาเป็นอันดับหนึ่ง เช่นเดียวกับกลุ่มคนรุ่นใหม่
  • ถัดมาเป็นการให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่ให้กับสมาชิกคนอื่น ๆ ในบ้านเพื่อรองรับการขยายครอบครัว (34%)
  • ความสะดวกที่มากขึ้น เช่น อยู่ใกล้ที่ทำงาน/โรงเรียน (28%)

ช่วงอายุ 40-49 ปี

เริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ หลายคนมีบทบาทเป็นผู้ปกครอง ที่มีการดูแลรับผิดชอบสมาชิกในบ้าน ทำให้ต้องมีการวางแผนการเงิน และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายส่วนต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการเงินที่วางไว้

นอกจากนั้น ผู้บริโภคกลุ่มนี้ ยังมีการวางแผนเก็บเงินสำรอง ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือ นำเงินเก็บไปลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการเลือกซื้ออสังหาฯ เพื่อนำไปลงทุนปล่อยเช่า ไว้เป็นรายได้เสริมอีกหนึ่งช่องทาง นอกเหนือจากรายรับประจำอีกด้วย

เหตุผลหลัก ๆ ในการตัดสินใจซื้อบ้านใหม่ของคนวัยนี้ ได้แก่

  • (40%) ยังคงเน้นที่การเพิ่มพื้นที่ส่วนตัว
  • การเพิ่มพื้นที่ให้ลูกและพ่อแม่ (30%)
  • การซื้อเพื่อลงทุนก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน (24%)

กลุ่มวัยใกล้เกษียณ อายุ 50-59 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไป

เป็นช่วงวัยที่จริงจังกับการวางแผนทางการเงิน เพื่อรองรับชีวิตหลังเกษียณมากขึ้น หลายคนให้ความสนใจทำประกัน เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงิน เมื่อเกิดปัญหาสุขภาพในอนาคต

กลุ่มวัยใกล้เกษียณและกลุ่มผู้สูงอายุ จะมองหาบ้านเดี่ยว ที่มีพื้นที่สวนในบริเวณบ้าน ให้ได้เดินออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมปลูกต้นไม้ในยามว่าง พร้อมมองหาสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ออกแบบให้รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของผู้สูงวัย เช่น พื้นป้องกันการลื่น ราวจับตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน หรือเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับสรีระ พักผ่อนสบายและลุกนั่งได้สะดวก

ผู้บริโภคสองกลุ่มนี้ จะให้ความสำคัญกับการใช้เวลาพักผ่อน กับสิ่งที่สนใจในบ้าน มากกว่าการเดินทางออกไปสังสรรค์ข้างนอก เมื่อต้องการซื้อบ้านหลังใหม่ กลุ่มวัยใกล้เกษียณและกลุ่มผู้สูงอายุ จะมีความต้องการคล้ายคลึงกันคือ

  • ความต้องการพื้นที่ส่วนตัวเพิ่มขึ้น
  • การตัดสินใจซื้อเมื่อรู้สึกอยากย้ายไปทำเลใหม่
  • ต้องการเพิ่มพื้นที่สำหรับคนในครอบครัว
  • การซื้อเพื่อลงทุนมากกว่า

ภาษี ภาษีที่ดิน ๒๐๑๑๐๓ 0 e1604421622880

ทั้งนี้ แม้ผู้บริโภคแต่ละช่วงวัย จะมีความต้องการ ที่อยู่อาศัย ที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่จะละเลยไม่ได้คือ การวางแผนอนาคตกับคนในครอบครัวที่ชัดเจน พร้อมพิจารณาปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ ที่อยู่อาศัย ที่ตรงใจและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตมากที่สุด เพราะบ้านเป็นมากกว่า ที่อยู่อาศัย และมีความหมายกับทุกคนในครอบครัว

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ แนะนำแนวทางในการพิจารณาความต้องการ ก่อนวางแผนเลือกซื้อ ที่อยู่อาศัย สำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของอสังหาฯ ในอนาคต เพื่อนำไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

  • ตั้งเป้าหมายในการเลือกที่อยู่อาศัยให้ชัดเจน เพื่อวางแผนค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เพราะการเลือกที่อยู่อาศัยส่งผลต่อการเงินโดยตรง เนื่องจากจะมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่ตามมา ผู้บริโภคควรประเมินความต้องการของตัวเองเป็นอันดับแรก ว่าจะเลือกซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยรูปแบบใด ก่อนที่จะพิจารณาโครงการบ้าน คอนโดฯ ตามปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ
  • ประเมินความมั่นคงในหน้าที่การงาน ที่ส่งผลโดยตรงต่อการวางแผนการเงิน เพราะถือเป็นแหล่งรายได้หลักและมีผลต่อการเลือกซื้อบ้าน คอนโดฯ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง
  • ต้องรองรับไลฟ์สไตล์ครอบครัวในอนาคต รูปแบบการอยู่อาศัย สถานะความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นอีกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกที่อยู่อาศัยเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้แผนเลือกที่อยู่อาศัยที่เคยตั้งไว้เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสถานภาพสมรส คนโสดที่อยู่คนเดียวหรือคนโสดอยู่กับพ่อแม่ คู่แต่งงาน พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ฯลฯ

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ/เช่าบ้านหรือคอนโดฯ ควรพูดคุย สอบถามความคิดเห็นและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ร่วมกันกับคนในครอบครัวก่อน เพื่อเลือกบ้านที่ใช่ให้ตอบโจทย์ของทุกคนได้มากที่สุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo