Technology

ปิดเว็บ โซเชียลผิดกฏหมาย เพิ่มอีก 209 ยูอาร์แอล ปิดกั้นแล้ว 4,114 ยูอาร์แอล

ปิดเว็บ โซเชียลผิดกฏหมาย อีก 209 ยูอาร์แอล ดีอีเอส เผยบังคับใช้กฏหมายเห็นผล ได้รับความร่วมมือลบ ปิดกั้นแล้ว 4,114 ยูอาร์แอล

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน2563 ศาลสั่งให้ ปิดเว็บ โซเชียลผิดกฏหมาย จำนวนรวม 209 ยูอาร์แอล แบ่งเป็น เฟซบุ๊ก 139 ยูอาร์แอล, ยูทูบ 20 ยูอาร์แอล, ทวิตเตอร์ 24 ยูอาร์แอล และอื่นๆ 26 ยูอาร์แอล

ปิดเว็บ โซเชียลผิดกฏหมาย

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการแจ้งความเอาผิดผู้กระทำความผิดอีก 12 ยูอาร์แอล ได้แก่ กลุ่มเฟซบุ๊กรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส – ตลาดหลวง จำนวน 11 ยูอาร์แอล และบัญชีทวิตเตอร์ Nicky @Pari_2532 จำนวน 1 ยูอาร์แอล

ปัจจุบัน สื่อสังคมออนไลน์ มีบทบาทสร้างความขัดแย้งในสังคม การปลุกปั่นยั่วยุ และการแสดงออกอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ ตระหนักถึงความเร่งด่วนในการแก้ไข รวมถึงเร่งเพิ่มการสื่อสารสร้างความตระหนักให้กับประชาชน ตลอดเปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส

ทั้งนี้ ได้สร้างช่องทางเพจอาสา จับตา ออนไลน์ หรือm.me/DESMonitor มีเจ้าหน้าที่รับเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง และตั้งกฎเหล็กให้เร่งดำเนินการรวบรวมหลักฐาน เพื่อยื่นขอคำสั่งศาลให้ เจ้าของ แพลตฟอร์มออนไลน์ โซเชียล ดำเนินการปิดกั้น ลบยูอาร์แอลที่ผิดกฎหมาย ภายใน 48 ชั่วโมง

ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้มีการดำเนินการ แจ้งความเอาผิด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ที่ไม่ปิดกั้นรายการเนื้อหาผิดกฎหมาย ตามคำสั่งศาลไปแล้ว 4 ชุด จำนวนรายการรวม 6,582 ยูอาร์แอล

จากการติดตามผลล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 พบว่า มีการดำเนินการลบ ปิดให้แล้ว จำนวน 4,114 ยูอาร์แอล ยังคงเหลืออยู่อีก 2,468 ยูอาร์แอล

ขั้นตอนจากนี้ จะรวบรวมคำสั่งศาลในช่วงวันที่ 2-18 ตุลาคม 2563 เพื่อสรุปจำนวนยูอาร์แอล ที่ยังไม่ปิดกั้น หลังมีหนังสือเตือน 15 วัน เพื่อดำเนินการแจ้งความเอาผิด ไอเอสพี และแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นชุดที่ 5 ต่อไป

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

ก่อนหน้านี้กระทรวงฯ ได้แจ้งความเอาผิด ผู้ให้บริการที่ไม่ปิดกั้น ตามคำสั่งศาล ในช่วงวันที่ 26 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นการเข้าแจ้งความชุดที่ 3 และชุดที่ 4 ตามคำสั่งศาลช่วงเดือนสิงหาคม – 2 กันยายน 2563 และ เดือน กันยายน – 2 ตุลาคม 2563 ตามลำดับ

การดำเนินการดังกล่าว ทำให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ เกิดความตื่นตัว ให้ความร่วมมือดำเนินการกฎหมายเพิ่มขึ้น โดยมีความคืบหน้า ดังนี้

การแจ้งความเอาผิดชุดที่ 3 จำนวน 3,097 ยูอาร์แอล ประกอบด้วย เฟซบุ๊ก 1,748 ยูอาร์แอล ปิดแล้ว 1,003 ยูอาร์แอล คงเหลือ 745 ยูอาร์แอล, ยูทูบ 607 ยูอาร์แอล ปิดครบแล้ว, ทวิตเตอร์ จำนวน 261 ยูอาร์แอล ปิดแล้ว 31 ยูอาร์แอล คงเหลือ 230 ยูอาร์แอล และเว็บอื่นๆ 481 ยูอาร์แอล ปิดแล้ว 127 ยูอาร์แอล คงเหลือ 354 ยูอาร์แอล

ขณะที่ การแจ้งความเอาผิดชุดที่ 4 จำนวน 1,185 รายการ ประกอบด้วย เฟซบุ๊ก 735 ยูอาร์แอล ปิดแล้ว 204 ยูอาร์แอล คงเหลือ 531 ยูอาร์แอล, ยูทูบ จำนวน 332 ยูอาร์แอล ปิดครบแล้ว, ทวิตเตอร์ 107 ยูอาร์แอล ปิดแล้ว 17 ยูอาร์แอล คงเหลือ 90 ยูอาร์แอล และเว็บอื่นๆ จำนวน 11 ยูอาร์แอล โดยยังไม่มีการปิดให้ตามคำสั่งศาล

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้รายงานการแจ้งเตือน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ตามคำสั่งศาล ที่มีการอนุมัติในช่วงเดือนตุลาคม เกี่ยวกับเนื้อหาที่ผิดกฎหมายจำนวนรวม 70 ยูอาร์แอล

ขณะที่สัดส่วนหลัก ๆ ยังอยู่บนเฟซบุ๊ก 29 ยูอาร์แอล และตามมาด้วย ยูทูบ 26 ยูอาร์แอล, ทวิตเตอร์ 7 ยูอาร์แอล และเว็บอื่นๆ 8 ยูอาร์แอล

ทั้งนี้ กระทรวงฯ มีนโยบายในการบูรณาการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเว็บ/สื่อผิดกฎหมายบนโซเชียลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการขอความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด รวมถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ในประเทศ และแพลตฟอร์มต่างประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo