ม็อบพรึ่บหน้ากระทรวงดีอีเอส ร่วม #savepornhub ลั่น “อย่าทำร้ายคนเหงา ด้วยการทำให้เข้าไม่ถึง Pornhub” ขณะสื่อนอกตีข่าว รัฐบาลประเทศที่มีอุตสาหกรรมทางเพศดังทั่วโลก แบน เว็บไซต์หนังผู้ใหญ่ชื่อดัง
วันนี้ (3 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มภาคีนิรนาม และกลุ่มอิสระ พร้อมประชาชนจำนวนหนึ่ง ทยอยเดินทางมาชุมนุม ตามที่ได้ประกาศนัดหมายไว้บริเวณอาคารบี ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. ที่ตั้ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม (ดีอีเอส) แสดงพลังคัดค้านการปิดกั้น เว็บไซต์หนังผู้ใหญ่ชื่อดัง อย่าง PornHub โดยผู้ชุมนุมต่างตระเตรียมเครื่องขยายเสียงพร้อมป้ายข้อความ
ผู้ชุมนุมบางคนสวมใส่เสื้อยืดสกรียนข้อความ ‘Pornhub’ พร้อมภาพการ์ตูนผู้หญิง โดยยังมีผู้ชุมนุมชายรายหนึ่งนำป้ายไวนิลระบุว่า ‘อย่าทำร้ายคนเหงา ด้วยการทำให้เข้าไม่ถึง Pornhub’ มาถือบริเวณพื้นที่ชุมนุมด้วย
ผู้ร่วมชุมนุมรายหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ ระบุว่า อยากทราบถึงเหตุผลที่รัฐบาลปิดกั้น เว็บไซต์หนังผู้ใหญ่ชื่อดัง เว็บนี้ ที่ผ่านมาสังคมไทยมีปัญหาด้านการให้ความรู้เพศศึกษา เพราะให้ข้อมูลแค่เพศชายและหญิง ไม่มีการให้ความรู้ต่อกรณีผู้มีความหลากหลายทางเพศ ส่วนหนึ่งการเรียนการสอนสุขศึกษาล้มเหลว ต้องปรับเปลี่ยน
“สำหรับการปิดกั้นเว็บไซต์นี้ อาจทำให้ผู้ต้องการมีความสุขทางเพศไม่มีที่ระบาย อาจเกิดอาชญากรรม เพราะความอัดอั้นเรื่องเพศ การนั่งในห้องดูหนังถือว่าไม่อนาจาร เป็นสิทธิที่จะทำ”
ขณะผู้ประท้วงอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า ประชาชนควรมีสิทธิเลือก และควรมีความชอบธรรมในการเลือกเสพสื่อ ตนขอถามว่าการมาไล่ปิดเว็บโป๊ ทำให้อะไรดีขึ้นหรือไม่ วันนี้จะนำเรื่องนี้ มาพูดกันที่หน้ากระทรวงดีอีเอส แล้วขยายไปถึงเรื่องการปิดกั้นสื่อมากมาย
ที่ผ่านมา จะเห็นว่ารัฐมนตรีคนนี้ไล่ปิดเว็บไซต์อื่นๆ มากมาย แต่ปิดไม่ได้อยู่อย่างเดียวคือเว็บการพนัน สิ่งที่ทำร้ายสถาบันครอบครัวมากที่สุด มากกว่าเว็บโป๊ แต่ยังลอยนวลอยู่
สื่อนอกตีข่าว แบน Pornhub
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานข่าวที่รัฐบาลไทย ได้กระทำการบล็อกการเข้าถึงของ เว็บไซต์หนังผู้ใหญ่ชื่อดัง
รายงานข่าวได้อ้างอิงถึงบทสัมภาษณ์ของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หลังให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า Pornhub ถือเป็นเว็บไซต์ผิดกฎหมาย หลังได้รับการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก จึงรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องศาล จนศาลได้มีคำสั่งปิดไป 190 กว่ายูอาร์แอล
รายงานข่าวระบุต่อว่า แต่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าวได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ถึงการตัดสินใจปิดเว็บไซต์ในประเทศที่มีผู้ชมติดอันดับท็อป 20 ของโลก จากสถิติการเข้าชมรายวันของเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่ชื่อดังเว็บนี้ เมื่อปี 2562 และมีอุตสาหกรรมทางเพศ ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ขณะที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางส่วนตั้งคำถามว่า การแบนดังกล่าวเกี่ยวกับการพยายามปกป้องศีลธรรมของไทยจริงหรือไม่
‘พุทธิพงษ์’ แจงเหตุ ปิดเว็บโป๊ชื่อดัง
ก่อนหน้านี้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีรัฐบาล โดย ดีอีเอสสั่งให้ระบบอินเทอร์เน็ต - มือถือทุกค่าย ระงับการเข้าถึงเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่ชื่อดังว่า ถือเป็นเว็บไซต์ผิดกฎหมาย และกระทรวงได้รับการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก จึงรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องศาล และศาลได้มีคำสั่ง ปิดไปกว่า 190 กว่า URL
ทั้งนี้ กระบวนการในการปิดเว็บไซต์ลามกอนาจารนั้น จะแตกต่างจากแพลตฟอร์มปกติ เนื่องจากเว็บไซต์ลามกอนาจารส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ ในหลายประเทศอาจจะถูกกฎหมาย สามารถเสียเงินและเป็นสมาชิกเข้าดูได้ แต่ในประเทศไทยถือว่า ยังผิดกฎหมายอยู่ จึงต้องใช้วิธีการปิดกั้นการมองเห็นในไทย เมื่อได้คำสั่งศาลมาแล้ว จะส่งให้ผู้ให้บริการมือถือทุกค่าย รวมถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายเพื่อแจ้งให้ปิดการมองเห็นในประเทศ แต่ในต่างประเทศยังเข้าได้ปกติ เพราะเป็นการบังคับใช้เฉพาะกฎหมายไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เว็บไซต์นี้มีผู้ติดตามจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลถูกโจมตีอย่างมาก นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขอให้มองใน 2 มิติ คนที่ร้องเรียนมาส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครอง และผู้ใหญ่ที่เป็นห่วงเยาวชน และต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ได้ถูกกฎหมายไทย ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมาย จึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้ทำให้ครบถ้วนมากนัก จึงมีการเข้าถึงได้บ้าง ดีอีเอสทำตามหน้าที่ ก็ต้องเห็นใจ ไม่ทำก็ไม่ได้ เราเข้าใจดีแต่ต้องทำ
เมื่อถามว่า หวั่นใจหรือไม่ที่เรื่องนี้จะเป็นประเด็นทำให้มีคนไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้น นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย และยังมีอีกหลายอันที่ผิดกฎหมาย ในเมื่อกระทรวงมีความจำเป็นก็ต้องทำ ตนเข้าใจแนวคิดของทุกคนดี แต่ต้องขอความเห็นใจด้วยว่า เราต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะคนส่วนใหญ่เป็นผู้ร้องเรียนเข้ามา ตนไม่ได้คิดเองทำเอง ทุกอย่างมีหลักฐาน เมื่อศาลพิจารณาแล้วจึงมีคำสั่ง
เมื่อถามว่า ขณะนี้ทัวร์ลง รมว.ดีอีเอส อย่างหนัก จะตอบโต้อย่างไร นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ตอบโต้อะไรเพราะต้องทำตามหน้าที่ คิดว่าวันหนึ่งทุกคนคงเข้าใจว่ามันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ เพราะมีหลายคนบอกว่า ตนทำช้าไปเสียด้วยซ้ำ ย้ำว่าตนทำตามกฎหมายไม่ได้ก้าวก่ายสิทธิของใคร เป็นการบังคับใช้กฎหมายโดยส่งศาลตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้ใช้อำนาจของตัวเอง ไม่ได้ใช้อำนาจของกระทรวง ไม่ได้รังแกใครเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่า สาเหตุมาจากการที่มีการโพสต์คลิปบุคคลสำคัญของประเทศใช่หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายที่สามารถรวบรวมได้และส่งศาลนั้นมีจำนวน 190 กว่า URL ซึ่งถือเป็นจำนวนที่เยอะมาก
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีการปิดเว็บไซต์ในลักษณะนี้เพิ่มอีกหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำหรับเว็บไซต์ลามกอนาจารและเว็บไซต์การพนัน ดีอีเอสทำอย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปล่อยตัว ‘อานนท์- สมยศ- เอกชัย- สุรนาถ’ ออกจากคุกแล้ว
- ‘ทรัมป์’ ประกาศไล่ ‘เฟาซี’ ออกจากทีมโควิด-19 หลังวันเลือกตั้ง
- คนละครึ่งเตือน 4.8 ล้านคนรีบใช้สิทธิ์ด่วน จ่อตัดสิทธิ์เงิน 3 พันบาทแล้ว!
