The Bangkok Insight

จากโพลถึงสนามจริง ‘ทรัมป์-ไบเดน’แข่งเดือดรัฐใหญ่ ปูทางประธานาธิบดี

โพลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกัน ก่อนวันเลือกตั้ง ชี้ให้เห็นว่านายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ยังได้รับความนิยมมากกว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลีกัน

แม้ผลการสำรวจหลายครั้งในช่วงก่อนการเลือกตั้งของหลายสำรวจ ชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้นายไบเดน จะได้รับการรับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ประธานาธิบดีทรัมป์และทีมหาเสียง เร่งเครื่องในโค้งสุดท้ายกันอย่างหนัก โดยหวังว่าจะสามารถพลิกผลโพลได้เหมือนการเลือกตั้งครั้งก่อน

ในช่วง 2 วันสุดท้าย สมรภูมิหาเสียงของทั้งสองพรรค มุ่งไปที่รัฐเท็กซัส ที่มีคณะผู้เลือกตั้ง 36 คะแนน และ รัฐโอไฮโอ ที่มีคณะผู้เลือกตั้ง 18 คะแนน ซึ่งจะกลายเป็นรัฐที่ชี้ขาดผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ จากจำนวนรัฐที่ถือเป็น “สมรภูมิ” ทั้งหมด 14 รัฐ

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

’13 รัฐสมรภูมิ’ ชี้ขาดชัยชนะ ‘ทรัมป์-ไบเดน’ ศึกเลือกตั้งสหรัฐ

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเห็นทั้งสองพรรคระดมหาเสียงในรัฐที่ถือเป็นสมรภูมิสูสี เนื่องจากไม่มีความชัดเจนว่าสนับสนุนพรรคใด แต่คะแนนเสียงจะขึ้นกับความนิยมในตัวผู้สมัคร ซึ่งจากการสำรวจล่าสุด ยังชี้ให้เห็นว่าในรัฐเหล่านี้ นายไบเดน ได้รับความนิยมมากกว่าในบรรดารัฐเหล่านี้

ทั้งนี้ การเลือกประธานาธิบดีสหรัฐ ใช้ระบบคณะผู้เลือกตั้ง (electoral college) มีจำนวนทั้งสิ้น 538 คน ซึ่งใครจะได้เป็นประธานาธิบดี จะต้องได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 270 เสียง

ในแต่ละรัฐจะมีคณะผู้เลือกตั้งไม่เท่ากัน ขึ้นกับขนาดของแต่ละรัฐ และคณะผู้เลือกตั้งจะมาจากการลงคะแนนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยพรรคไหนได้รับชัยชนะ ก็จะได้จำนวนคณะผู้เลือกตั้งทั้งหมดไปครอง จะไม่มีการแบ่งเป็นสัดส่วนตามการลงคะแนน

เลือกตั้งสหรัฐ

ทั้งนี้ รัฐที่เป็นสมรภูมิการเลือกตั้งแทบทุกครั้งมีจำนวน 14 รัฐ หรือ ที่เรียกว่า “สวิงสเตท” ประกอบด้วย จอร์เจีย เท็กซัส นอร์ทแคโรไลนานิวแฮมป์เชียร์ เนวาดา เพนซิลเวเนีย ฟลอริดา มิชิแกน มินนิโซตา วิสคอนซิน เวอร์จิเนีย แอริโซนา โอไฮโอ ไอโอวา

โพลล่าสุด ชี้ให้เห็นว่าคะแนนนิยมทั่วประเทศ นายไบเดน มีคะแนนมากกว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ 8.4% โดยนำอยู่ที่ 51.9% ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ 43.5% (ดูรายละเอียดโพล FiveThirtyEight’s updating average )  โดยแยกได้ดังนี้

  • ไบเดน เหนือ ทรัมป์ เล็กน้อย ในรัฐฟลอริดา โดยนำอยู่ 2.3%  ในสัดส่วน 49.9% ต่อ 46.5%
  • ทรัมป์นำ เบเดน เล็กน้อยในรัฐโอไฮโอ ประมาณ 1% ในสัดส่วน 47.5% ต่อ 47.1%
  • ทรัมป์ นำไปเดน 1% ในรัฐเท็กซัส อยู่ที่ 48.5% ต่อ 47.5%
  • ไบเดน นำ ทรัมป์ ถึง 8.1% ในรัฐมิชิแกน อยู่ที่ 51.1% ต่อ 43%
  • ไบเดน นำ ทรัมป์ ในรัฐวิสคอนซิน อยู่ที่ 8.2% อยู่ที่ 51.9% ต่อ 43.7%
  • ไบเดน นำ ทรัมป์ 5.1% ในรัฐเพนซิลเวเนีย อยู่ที่ 50.3% ต่อ 45.2%
  • ไบเดน นำ ทรัมป์ เล็กน้อย 1.9% ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา อยู่ที่ 48.8% ต่อ 47%
  • การแข่งขันยังดุเดือดในรัฐจอร์เจีย โดย ไบเดน นำ ทรัมป์ 1.3% อยู่ที่ 48.4% ต่อ 47.1%
  • ไบเดน นำ ทรัมป์ ถึง 9.3% ในรัฐมินนิโซตา อยู่ที่ 52% ต่อ 42.6%
  • ไบเดน นำ ทรัมป์ ที่ 2.9% ในรัฐแอริโซนา อยู่ที่ 48.6% ต่อ 45.7%
  • ไบเดน นำ ทรัมป์ ที่ 4.9% ในรัฐเนวาดา อยู่ที่ 49.4% ต่อ 44.5%

ล่าสุดการสำรวจครั้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง โดย Morning Consult ยังชี้ให้เห็นความนิยมไปในทางเดียวกัน โดยนายไบเดนนำประธานาธิบดีทรัมป์ 8% อยู่ที่ 51.9% ต่อ 43.9% แต่มีความแตกต่างจากโพลก่อนหน้านี้ คือ

  • ไบเดน กับ ทรัมป์ ความนิยมเท่ากันในรัฐเท็กซัส ที่ 48.1% ต่อ 48.1%
  • ไบเดน นำ ทรัมป์ ในรัฐฟลอริดา ที่ 6% อยู่ที่ 51.5% ต่อ 45.5%
  • 85% ของคนผิวดำสนับสนุนไบเดน เทียบกับ 10% สนับสนุน ประธานาธิบดีทรัมป์
  • 52% ของคนผิวขาวสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ เทียบกับ 44% สนับสนุนนายไบเดน
  • นายไบเดน นำ ประธานาธิบดีทรัมป์ สำหรับคนที่เป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงอิสระ 49% ต่อ 39%
  • 54% ของเพศหญิง ระบุว่าสนับสนุนนายไบเดน ขณะที่ 41% สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์
  • 49% ของเพศชาย สนับสนุนนายไบเดน ขณะที่ 47% บอกว่าสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์

ทรัมป์’จะพลิกผลโพลได้หรือไม่?

ผลการสำรวจคะแนนนิยม ที่มีก่อนการเลือกตั้ง ชี้ไปในทางเดียวกันจากทุกสำนักว่านายโจ ไบเดน มีคะแนนนำ แตคลาดเคลื่อนของผลสำรวจเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีต โดยครั้งล่าสุด ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ที่นางฮิลลารี คลินตัน พ่ายแพ้ต่อประธานาธิบดีทรัมป์ ทั้ง ๆที่ ผลสำรวจคะแนนนิยมนำมาโดยตลอด

การพ่ายแพ้ของนางฮิลลารี คลินตัน ในครั้งนั้น ได้มีการวิเคราะห์กันไปหลายด้าน แต่คำถามที่เกิดขึ้นคือ โพลผิดพลาดได้อย่างไร และทำให้บรรดาสำนักสำรจความคิดเห็นต่างเร่งปรับปรุงวิธีการสำรวจครั้งใหญ่

นักวิเคราะห์กล่าวว่าการสำรวจเกิดความผิดพลาดได้ โดยในครั้งนั้น นางคลินตัน นำ ประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ที่ 44% ต่อ 41% เมื่อผลเลือกตั้งออกมากลับพลิกความคาดหมาย

อย่งไรก็ตาม หากประเมินจากความคลาดเคลื่อนจากการสำรวจในครั้งที่ผ่านมา และลบจากผลสำรวจในครั้งนี้ นายไบเดน ก็มีคะแนนนำอยู่ดี แต่ทั้งนี้ต้องรอดูผลการเลือกตั้งที่ออกมา

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ หาเสียงในวันสุดท้าย พยายามชี้ให้เห็นว่าผลการสำรวจผิดพลาด เชื่อมั่นว่าชาวอเมริกันยังสนับสนุนให้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย และมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ

‘ทรัมป์’จะกลับมาต้องรักษารัฐใหญ่ “เท็กซัส-โอไอโอ”

ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ ตระหนักดีว่าคะแนนนิยมลดลง และโอกาสจะคว้าชัยชนะเหมือนกับการเลือกตั้งครั้งก่อนไม่ง่ายนัก จึงเน้นหนักไปที่ “สวิงสเตท” ที่มีคณะผู้เลือกตั้งสูงอย่างเท็กซัส ฟลอริดา เพนซิลวาเนีย นอร์ทแคโรไลนา โดยหวังว่าหากรักษาไว้ได้ก็จะช่วยให้ชนะเลือกตั้งในครั้งนี้ได้แบบ “เฉียดฉิว”

แต่โพลล่าสุดก็ชี้ให้เห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์ มีคะแนนเป็นรองนายโจไบเดน ซึ่งไม่นับหลายรัฐที่เคยเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครตมาก่อน และพ่ายแพ้ให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งก่อน ที่ไม่น่าจะรักษาคะแนนเสียงไว้ได้

โดยเฉพาะเพนซิลวาเนีย ที่เป็นบ้านเกิดของนายไบเดน และมีคณะผู้เลือกตั้งถึง 20 เสียง ซึ่งโพลชี้ว่านายไบเดนมีคะแนนนำ รวมถึงนอร์ทแคโรไลนา ที่นายไบเดน ทุ่มหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย หากชนะ 2 รัฐนี้ ก็มีโอกาสสูงจะชนะเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยไม่ต้องไปลุ้นให้เหนื่อยในรัฐใหญ่ ๆ อย่างเท็กซัสและฟลอลิดา

แต่ 2 รัฐที่จะเป็นตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้งสำหรับประธานาธิบดีทรัมป์ คือ เท็กซัส และฟลอลิดา ที่มีคณะผู้เลือกตั้งรวมกัน 67 เสียง หากพ่ายแพ่รัฐใดรัฐหนึ่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ก็เตรียมเก็บกะเป๋าออกจากทำเนียบขาวได้

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะรู้ผลการเลือกตั้ง ลองดูว่าในครั้งนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ จะสามารถหัก “ปากกาเซียน” ได้หรือไม่ ที่คาดการณ์กันว่าเขาจะพ่ายแพ้การเลือกตั้ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

โพลโค้งสุดท้าย ‘ไบเดน’ ยังทิ้งห่าง ‘ทรัมป์’ ศึกเลือกตั้งสหรัฐ

บทวิเคราะห์: โควิด-19 ระบาดหนักอาจเป็นลางร้ายของ ‘ทรัมป์’ ในการเลือกตั้งสหรัฐ

คู่ชิงประธานาธิบดีแข่งเดือด! ‘นิวยอร์ก’ ยกระดับคุมเข้ม ‘เลือกตั้งสหรัฐ’

Avatar photo