Business

ง่ายนิดเดียว! ร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง

สมัครร่วมโครงการคนละครึ่ง  3 เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับร้านค้า สามารถตรวจสอบคุณสมบัติ ได้ใน 1 วัน โดยระบบจะแจ้งผลให้ทราบผ่าน SMS ตามเบอร์มือถือที่แจ้งไว้

สมัครร่วมโครงการคนละครึ่ง เพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า หลังจากโครงการ “คนละครึ่ง” เปิดให้ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่าน เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง .com มีผู้ลงทะเบียนครบ 10 ล้านคนแล้ว ล่าสุด มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 400,000 ร้านค้า และอีกหลายร้านค้าที่ทยอยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว สำหรับร้านค้าที่ลงทะเบียนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบสถานประกอบการ วันนี้อยากชวนมาดู 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ท่านผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ ได้ใน 1 วัน
ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมบัตรประชาชน พร้อมรูปถ่ายร้านค้าที่มีรูปเจ้าของขณะประกอบกิจการ
ขั้นตอนที่ 2 : นำแบบฟอร์มลงทะเบียน ไปให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน รับรองเอกสารยืนยันประกอบอาชีพ ตามเงื่อนไขโครงการ
ขั้นตอนที่ 3 : นำเอกสารลงทะเบียนและใบรับรอง ไปยื่นได้ที่จุดตั้งบูธของกระทรวงมหาดไทย ที่ร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือสาขาธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ
หลังจากนั้นรอการตรวจสอบและอนุมัติสิทธิ โดยระบบจะแจ้งผลให้ทราบผ่าน SMS ตามเบอร์มือถือที่แจ้งไว้ หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ธนาคารกรุงไทย โทร. 02 111 1144
สมัครร่วมโครงการคนละครึ่ง
อย่างไรก็ดี หากร้านค้าไหนเข้ามาแล้วมีการทุจริตเกิดขึ้นทางราชการก็จะจัดการทันที ล่าสุด นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่าได้รับรายงานจากธนาคารกรุงไทย และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ตรวจพบร้านค้าทุจริต โครงการคนละครึ่ง 2 ราย  เป็นผู้แอบอ้างแต่ไม่มีหน้าร้านจริง โดยขณะนี้ กระทรวงการคลังได้ตัดสิทธิ และระงับการใช้งานแอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ของร้านค้าดังกล่าวแล้ว จากนั้นจะเรียกเงินคืนและเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินตามรายละเอียดของกฎหมายต่อไป ซึ่งจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง

สมัครร่วมโครงการคนละครึ่ง

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังพบร้านค้าเข้าข่ายทุจริตมากกว่า 10 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบ โดยธนาคารกรุงไทยจะลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบตามร้านค้าต่างๆ ที่มีความน่าสงสัย นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้คลังในพื้นที่ เข้าไปช่วยดูแลในเรื่องดังกล่าวด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มี 4 เงื่อนไขสำคัญที่กำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกตัดสิทธิ ดังนี้

  1. ผู้ได้รับสิทธิคนละครึ่ง ต้องใช้สิทธิภายใน 14 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับข้อความสั้น (SMS) แจ้งว่า ได้รับสิทธิ หากไม่ใช้สิทธิภายในเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิ และ ไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก กรณีประชาชนลงทะเบียนสำเร็จก่อนวันเปิดให้ใช้สิทธิ์ 23 ตุลาคม 2563 ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่เริ่มเปิดให้ใช้สิทธิ
  2. ห้ามนำเงินที่ได้จากคนละครึ่งไปซื้อ สลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาสูบ และ บริการต่างๆ
  3. ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง กระทำการใด ๆ ที่สร้างความเข้าใจผิด ต่อมาตรการ หรือ โครงการของรัฐ หรือ ก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือ มาตรการอื่น ๆ ของรัฐ
  4. หากผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ไม่ปฏิบัติตาม หรือ ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือ เงื่อนไขของโครงการ ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่รัฐ ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ถึงการกระทำดังกล่าว โดยชดใช้ความเสียหาย ผ่านช่องทางที่กระทรวงการคลังกำหนด

ขณะที่ นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับคนที่พลาดหวัง ลงทะเบียนคนละครึ่ง ไม่ทันนั้น ขอให้อดใจรอ โดย กระทรวงการคลัง จะนำยอดผู้ลงทะเบียน แต่ไม่ได้ใช้สิทธิภายใน 14 วัน นำมาเปิดลงทะเบียนคนละครึ่ง รอบใหม่หลังวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป ซึ่งยังไม่ทราบว่า จะมียอดเท่าไร แต่จะยังไม่มีการขยายสิทธิ์ลงทะเบียน ให้เกินกว่า 10 ล้านคน

ส่วนร้านค้ายังลงทะเบียนได้ต่อเนื่อง ทั้งผ่านเว็บไซต์ www. คนละครึ่ง.com และ สาขาธนาคาร กรุงไทย โดยไม่มีการปิดรับลงทะเบียน ซึ่งปัจจุบัน มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 3.8 แสนร้านค้า และ มียอดการใช้จ่ายสะสมถึงวันที่ 27 ตุลาคมแล้ว 1,100 ล้านบาท โดยใช้จ่ายครบทุกจังหวัด  และ จังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา และ นครศรีธรรมราช

สำหรับการโอนเงินค่าสินค้า ให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการนั้น จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นเงินของประชาชน ที่จ่ายให้ร้านค้า จะมีการโอนเข้าบัญชีทุกสิ้นวันช่วง 02.00 – 06.00 น. ตามระบบชำระเงินของธนาคาร ส่วนเงินอีกครึ่งหนึ่ง ที่ภาครัฐร่วมจ่ายให้นั้น  ร้านค้าจะได้รับในวันทำการถัดไปช่วง 17.30 – 19.00 น. รวมถึงในช่วงวันหยุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight