World News

สหรัฐขู่งัด ‘มาตรการเด็ดขาด’ หากประชาชนยังไม่ป้องกันโควิด-19 จริงจัง

สหรัฐ ขู่งัด “มาตรการขั้นเด็ดขาด” หากประชาชนยังไม่ยอมป้องกัน โควิด-19 อย่างจริงจัง ผู้เชี่ยวชาญชี้สถานการณ์เลวร้ายเพราะประเทศแตกแยก

เบรตต์ กิรัวร์ (Brett Giroir) รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐ เตือนว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะมีการบังคับใช้ “มาตรการขั้นรุนแรง” ถ้าประชาชนไม่ทำตามแนวทางป้องกันความปลอดภัยอย่างจริงจัง

เบรตต์ กิรัวร์ (Brett Giroir)

กิรัวร์กล่าวในการสัมภาษณ์รายการเอ็นบีซีทูเดย์ (NBC’s TODAY) ว่า ประเทศมาถึง “จุดวิกฤต” ในการรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส โควิด-19 พร้อมย้ำว่า “เรายังสามารถควบคุมไวรัสได้” ด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย และระมัดระวังการรวมตัวภายในอาคารที่คับแคบ

ถ้าชาวอเมริกันไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว เขาเตือนว่า “เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นอาจต้องออกมาตรการที่เด็ดขาดกว่าเดิม เพราะจำนวนผู้ป่วยจะยังคงเพิ่มขึ้น ถ้าประชาชนไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรม”

กิรัวร์ตอบโต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่อ้างหลายครั้งว่าการตรวจเชื้อเยอะเป็นเหตุผลว่า ทำไมจำนวนผู้ป่วยถึงพุ่งสูงขึ้น โดยบอกว่าเหตุผลจริงๆ คือมันเกิดการระบาดในวงกว้าง เขายังเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจเชื้อให้ประชาชนมากขึ้น

ข้อมูลจากศูนย์ศาสตร์แห่งระบบและวิศวกรรม (CSSE) มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่า สหรัฐ พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 เพิ่มเฉลี่ยวันละกว่า 71,000 ราย ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยทั่วประเทศอยู่ที่มากกว่า 8,850,000 ราย

ทีโดรส อัดฮานอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องเมื่อสัปดาห์นี้ว่า “อย่าทำให้การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นประเด็นทางการเมือง”

“ที่ใดที่การเมืองเกิดความแตกแยกในระดับชาติ วิทยาศาสตร์และบุคลากรทางการแพทย์ถูกดูหมิ่นอย่างโจ่งแจ้ง ความสับสนจะกระจายเป็นวงกว้าง ทำให้ยอดผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มทวีคูณ” ทีโดรสปิดท้าย

แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อชั้นนำของสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ที่เลวร้ายลงภายในสหรัฐนั้น มีสาเหตุมาจาก “ความแตกแยก” ของรัฐต่างๆ ในประเทศในการปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขภาพ อาทิ การสวมหน้ากากอนามัย “หากทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ ผมคิดว่าเราคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ การสวมหน้ากากอนามัยในสหรัฐ เกือบจะกลายเป็นเรื่องทางการเมืองไปแล้ว” เขากล่าว

“ประชาชนถูกหัวเราะเยาะเพราะสวมหน้ากากอนามัย มันขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ฝั่งไหนของการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากสำหรับผมในฐานะแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และนักสาธารณสุข” เขากล่าว

พร้อมเสริมว่าเขายังคงระมัดระวังเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดใหญ่ของประเทศโดยรวม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขา “รู้สึกเป็นกังวลเป็นอย่างมาก” เกี่ยวกับสถานการณ์ในอีกหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งเข้าใกล้ช่วงฤดูหนาวและเทศกาลวันหยุด

อย่างไรก็ดี แม้ว่าวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 จะพร้อมใช้งานในสหรัฐ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่มีความเป็นไปได้ที่ “ประชาชนจำนวนมาก” จะไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจนกว่าจะถึงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของปี 2564

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo