Business

เปิดเงื่อนไขชัด! จ้างงาน ‘เด็กจบใหม่’ แก้ปัญหาว่างงาน-ตกงาน

จ้างงานเด็กจบใหม่ แก้ปัญหาว่างงาน-ตกงาน โครงการ Co – payment รมว.แรงงาน แจง เงื่อนไข ผู้มีสิทธิร่วมโครงการ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมการ จ้างงานเด็กจบใหม่ แก้ปัญหาว่างงาน-ตกงาน โดย ภาครัฐและเอกชน (Co – payment) เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ ให้เกิดการจ้างงานใหม่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้

จ้างงานเด็กจบใหม่ แก้ปัญหาว่างงาน-ตกงาน

นอกจากนี้ ยังมุ่งแก้ไขปัญหาการว่างงาน ที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของโรคโควิด-19 ตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับ การส่งเสริมการมีงานทำ

โครงการดังกล่าว มีเป้าหมายช่วยเหลือ นายจ้าง สถานประกอบการภาคเอกชน ให้เกิดสภาพคล่องทางธุรกิจ และเพิ่มโอกาส ให้ผู้จบการศึกษาใหม่ ที่ไร้ประสบการณ์การทำงาน ได้รับการบรรจุงานเพิ่มขึ้น โดยภาครัฐอุดหนุนเงินเดือนครึ่งหนึ่งตามวุฒิการศึกษา จำนวน 260,000 อัตรา ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 30 กันยายน 2564

เปิดรายละเอียดนายจ้างที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ

สำหรับ นายจ้าง สถานประกอบการ ที่เข้าเงื่อนไขมีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่

  • จะต้องเป็นผู้อยู่ในระบบประกันสังคม
  • ไม่ใช่หน่วยงานภาครัฐ
  • ต้องไม่มีการเลิกจ้างลูกจ้างเดิม เกินกว่า 15% นับจากวันที่ได้รับพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการฯ จนตลอดระยะเวลาที่ร่วมโครงการฯ
  • กรณีที่ผู้จบการศึกษาใหม่ ลาออก ในระหว่างโครงการฯ สถานประกอบการจะต้องแจ้งให้กรมการจัดหางานทราบผ่านทางเว็บไซต์ www.จ้างงานเด็กจบใหม่.com ภายใน 7 วัน เพื่อมีสิทธิในการจ้างผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ทดแทนได้ภายใน 30 วัน
สุชาติ ชมกลิ่น 1
สุชาติ ชมกลิ่น

เงื่อนไขผู้จบการศึกษาใหม่ ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ

  • ต้องมีสัญชาติไทย
  • ไม่เคยอยู่ในระบบประกันสังคม
  • ยกเว้นกรณีผู้จบการศึกษาใหม่ที่อยู่ในระบบประกันสังคม เนื่องจากการทำงานนอกเวลา (Part time) ในระหว่างที่กำลังศึกษา ซึ่งใช้เกณฑ์พิจารณาจากวันที่จบการศึกษา
  • ผู้จบการศึกษาใหม่ยังเป็นผู้ว่างงาน
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี, ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.), ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) มีอายุไม่เกิน 25 ปี หรือ ถ้าอายุเกิน 25 ปี ต้องจบการศึกษาในปีการศึกษา 2562 หรือปี 2563

แรงงานพนักงานออฟฟิศ ๒๐๑๐๒๘

ด้าน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐจะจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่ลูกจ้าง ตามโครงการฯ ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างตามระดับการศึกษา ได้แก่

  • ระดับปริญญาตรี ค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท รัฐอุดหนุน จำนวน 7,500 บาท
  • ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดือนละ 11,500 บาท รัฐอุดหนุนจำนวน 5,750 บาท
  • ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดือนละ 9,400 บาท รัฐอุดหนุน จำนวน 4,700 บาท
  • มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดือนละ 8,690 บาท รัฐอุดหนุน จำนวน 4,345 บาท

อย่างไรก็ตาม หากอัตราค่าจ้าง ที่กำหนดในโครงการ ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัด ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ นายจ้าง สถานประกอบการ ต้องจ่ายค่าจ้าง ให้เป็นไปตามประกาศ คณะกรรมการอัตราค่าจ้าง

ทั้งนี้ นายจ้าง สถานประกอบการ ต้องเป็นผู้นำส่งเงินสมทบ โดยคำนวณค่าจ้าง ทั้งส่วนของนายจ้าง และที่รัฐอุดหนุน  เพื่อใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบ ที่ต้องนำส่งประกันสังคม และจ่ายเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยของลูกจ้างไม่เกินวันสิ้นเดือนของทุกเดือน

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ของกรมการจัดหางาน จะตรวจสอบข้อมูล เพื่อโอนเงินสนับสนุนค่าจ้าง ให้แก่ลูกจ้าง ภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์ “ไทยมีงานทำ.com” และคลิ๊กแบนเนอร์จ้างงานเด็กจบใหม่ จากนั้นลงทะเบียนตามขั้นตอนที่กำหนด นายจ้าง/สถานประกอบการ ตรวจสอบความคืบหน้าการอนุมัติเข้าร่วมโครงการ การยื่นเอกสารเพิ่มเติม ติดต่อสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัด ที่ระบุเป็นสถานที่ทำงาน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo