Entertainment

‘อ๊อด โฟร์เอส’ เล่ามรสุมชีวิต เจอวิกฤติป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ลุกขึ้นสู้จนได้เป็นเจ้าพ่อรำวง

อ๊อด โฟร์เอส เล่ามรสุมชีวิตไม่มีวาสนาได้เป็นนักร้อง แถมเจอวิกฤติป่วยเป็นอัมพฤกษ์ 

ลุกขึ้นสู้จนได้เป็นเจ้าพ่อรำวงชาวบ้านชื่อดังของเมืองไทย

            ยืนหนึ่งบนตำแหน่งเจ้าแห่งเพลงรำวงที่คอเพลงลูกทุ่งยกให้ พ่ออ๊อด โฟร์เอส นักร้องและนักแต่งเพลงผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักร้องหลายๆคนในวงการลูกทุ่งไทยเป็นขวัญใจตลอดกาล เพรไม่ว่าจะไปงานไหนๆ พ่ออ๊อด มักจะขนความสนุกความสุขที่จัดเต็มด้วยแสง สี เสียงแบบอลังการงานสร้าง เช่นเดียวกันเมื่อมาเยือนเป็นแขกรับเชิญในรายการ ต้มยำอมรินทร์  ผลิตโดย CHANGE2561 เจ้าตัวก็จัดเต็มสร้างสีสันทำสตูดิโอคึกคักด้วยเสียงเพลง พร้อมยังเล่ามรสุมชีวิตไม่มีวาสนาได้เป็นนักร้อง แถมเจอวิกฤตป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ลุกขึ้นสู้จนได้เป็นเจ้าพ่อรำวงชาวบ้านชื่อดังของเมืองไทย

batch 73 11 

ถาม ทำไมถึงได้มาเป็น เจ้าพ่อเชียร์รำวงชาวบ้านอันดับ 1 ของเมืองไทย ?? 

อ๊อด โฟร์เอส คือ เราได้เรียนรู้จากครูบารอาจารย์ที่เขาสอนเขาทำเอาไว้ แต่เราเป็นคนที่ทำให้เกิดกระแสรำวงขึ้น เริ่มต้นคือเราไปที่เพชรบุรี ไปเป็นพิธีกรเขาก็มีรำวงเราก็ไปยืนดู เราก็ขึ้นไปรำกับเขานั่นคือ จุดประกายเราเจอแล้ว เจอทางเดินของเราแล้ว เพราะอยากจะเป็นนักร้องลูกทุ่งมาหลายครั้งแต่เราผิดหวังมาตลอด เป็นอะไรที่กดดัน เริ่มชีวิตจากชาวไร่ชาวนา แบกไม้โรงเลื่อน ก็มาเจอเพื่อนๆด้วยกันชวนมาเล่นแตรวง แล้วคือ เขาไม่รู้ว่าพ่อร้องเพลงเก่ง แต่บังเอิญแม่ครัวเขามาขอว่าเขาอยากฟัง พอเพื่อนได้ยินเสียงที่เราร้องเขาก็บอกว่าให้เราไปทำหน้าที่ร้องอย่างเดียวเลย ตั้งแต่นั้นก็รับงานรำวง แห่นาคมันก็เลยเป็นงานที่เพิ่มขึ้นมาค่าตัวก็เท่าเดิมคือ 100

ถาม แต่ก่อนหน้าที่จะมายืนจุดนี้ คือ ไปเป็นนักแสดงตลกมาแล้วด้วย

อ๊อด โฟร์เอส พอเรามาเล่นแตรวงปรากฏว่าไปเจอ แม่บ้าน (ที่เป็นคู่ชีวิตของเรา) ตอนนั้นก็คุยกันเธอก็จนฉันก็จนเรามาอยู่ด้วยกันไหมมาร่วมกันตั้งคณะไหมตกลงมาอยู่ด้วยกันจากนั้นเราก็เข้ามาอยู่ กรุงเทพ เข้ามาอยู่วงดนตรีลูกทุ่งวงแรกเลยคือ สุรชัย โฟร์ซอง ด้วยความที่เราเป็นคนที่ตกใจง่าย เป็นคนบ้าจี้ พอเขาเห็นเราเป็นคนบุคลิกแบบนี้เลยเอามุขนี้ สิ่งที่เราเป็นนี้มาเล่นตลกในวงเราแล้วพอวงหยุด รุ่นพี่ เราเขาก็มาชวนเล่นตลกคาเฟ่ตอนนั้นตลกฮอตมาก เริ่มจากตลกคณะ เหรียญทอง แล้วก็มาเป็นลอยฟ้า แล้วก็มาอยู่กับ ชูศรี เชิญยิ้ม สีหนุ่ม เชิญยิ้ม และก่อนที่จะเลิกจากวงการตลกคือ อยู่คณะตูมตาม เชิญยิ้ม

batch 72 11

ถาม เห็นว่ามีช่วงที่ พ่ออ๊อด ป่วยด้วยถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์เลย

อ๊อด โฟร์เอส เพราะเราไม่ค่อยได้พักผ่อน คือ ไม่ได้นอนเลย ตอนนั้นคือ เราขับรถไปเล่นตลกที่ลำปาง แล้วคือพาครอบครัวเพื่อจะพาเขาไปเที่ยวด้วย คือ ช่วงนั้นเป็นช่วงสงกรานต์เราก็ขึ้นไปหาคุณพ่อ ทุกปีพอรดน้ำดำหัวเรียบร้อยเราก็ดื่มน้ำปกติ แต่ความรู้สึกตอนนั้นคือ หน้าเราชาก็ลองตบหน้าตัวเองว่ายังไงเราเป็นอะไร แล้วก็ขับรถกลับกรุงเทพฯ เราขับมาได้ถึงนครปฐม แล้วแวะเข้าห้องน้ำ แล้วเราก็ดื่มน้ำทีนี้คือ หน้าเบี้ยวไปทั้งแผงเลย หน้าชาไปหมดเลยตอนนั้น และทั้งแต่นั้นมาการพูดขอวเราก็ติดๆขัดๆตบมุขตลกไม่ลง

อ๊อด โฟร์เอส แล้วคือตอนนั้นเราขึ้นอยู่กับ เชิญยิ้ม แล้วคือ เป็นช่วงที่เราเพิ่งซื้อรถใหม่ได้สองวัน แล้วกำลังนั่งกินข้าวอยู่ก่อนไปทำงานแล้ว ผู้จัดการโทรมาหาเราว่ายุบวงแล้วนะ คือ พอเราได้ฟังใจหายเลยเพราะว่าเราเพิ่งซื้อรถมาเอง พอเรารู้ว่าวงไม่มีล่ะ ชีวิตเราต้องไปต่อเราขายค้าเลยเราก็ลงทุนไปซื้อผักตามป่า ตามสวน ไปนั่งขายตลาดนัด เราก็นั่งขายตรงนี้วันนี้คนไปเดินแทบที่เราไม่ขาย แล้วพอเราย้ายไปขายอีกฝั่ง เขาก็มาเดินอีกฝั่งที่เราไม่ได้ขาย (หัวเราะ)

อ๊อด โฟร์เอส เราก็มานั่งนึกถึงเพลงเราก็แต่งเพลงพอได้ เลยลองแต่งแล้วอัดเสียงไปเสนอค่ายดู  20 เพลง ก็ได้มีโอกาสได้คุยเราก็เล่าประวัติความเป็นมาของเราให้เขาฟัง ซึ่งตอนนั้นคือเราก็มีภาระหนี้สินคือ  6 เดือนติดค่ารถแล้วบ้านก็ติดธนาคาร ทางค่าเพลงก็บอกเราว่าจะซื้อสัก 4 เพลง แต่ด้วยความเมตตาของนายห้างไปๆมาๆเขาซื้อเพลงเรา 18 เพลง ตอนนั้นเพลงละ 5000 บาท ได้เงินกลับมาบ้าน 90000 บาท เป็นเงินก้อนแรกในชีวิตที่เรามีเงินเยอะและได้มาจากสติปัญญาของเราเองทำให้เรารู้สึกปลื้มใจมาก เราก็เอาเงินไปเคลียร์รถ เคลียร์บ้านจบหมด แล้วที่เหลือเราก็เอามาลงทุนทำกับข้าวต่อจบไม่ได้อะไรอีก

batch 21 5

ถาม แล้วอะไรที่พลิกผันทำให้กลายมาเป็น นักร้อง ตอนไหน

อ๊อด โฟร์เอส : ปรากฏว่าเราแต่งเพลงให้นักร้องชายร้องแล้วเขาร้องไม่ได้ ชื่อเพลงว่า อุ้มหมอนตอนบวช แล้วทีนี้นายห้างเขาก็โทรมาหาเราว่าให้เราร้องเพลงชุดนี้ดีกว่า เราก็เข้าไปอัดร้อง  11 เพลงสองชั่วโมงครึ่ง ถ่าย MV  พร้อมเสร็จสับพร้อมที่จะออกก็ปรากฏว่านายห้างโทรมา อ๊อด เพลง อุ้มหมอนฯ อย่าร้องเลยให้ เอกชัย ศรีชัย ร้องเถอะ แต่เราเข้าใจเขานะเพราะเขามองการไกลเราก็เข้าใจในเรื่องของการทำธุรกิจ แล้วคือในยุคนั้น นักร้องหล่อทั้งนั้น อย่าง ก๊อต จักรพรรณ์ , ไชยา ฯลฯ  แต่เราเตี้ยก็เตี้ยหล่อก็ไม่หล่อ อายุก็เยอะ เขากลัวขายไม่ได้ เราเข้าใจมันเป็นเรื่องของธุรกิจ พอจบจากตรงนั้นก็พาลูกๆหลานๆไปเต้นตามวงคนอื่นอย่างเดียว จนเราไปเจอรำวง ที่เป็นทางเราแน่ ขับรถกลับมาเราก็นึกถึงนายห้างที่เขาไม่รู้จะเอาจุดไหนของเราเป็นจุดขาย เราคิดว่าถ้าเราเองคำว่า รำวง ออกสู่จอทีวีคนแรกคนที่จะได้รับความสุข คือ คนที่เป็นรุ่นพ่อรุ่นแม่เรา เราก็ไปเสนอเขาเลยว่าเรามีโปรเจคงานอยู่งานหนึ่งสนใจไหม ตอนนี้ รำวงมันมีนะแต่ไม่เป็นกระแสถ้าเราทำก่อนเราได้เปรียบ ถ้าเราออกสู่จอทีวีมันจะเป็นกระแส เขาก็บอกว่าใครจะร้องผมไง เราก็บอกเขาว่าช่วยทำให้ฝันเราเป็นจริงหน่อยได้ไหม เราถึงขนาดบอกเขาว่าถ้าเราทำให้เขาเจ๊งขาดทุนเอาเราไปยิงทิ้งที่ไหนก็ได้ ยอมขายชีวิตเลย

อ๊อด โฟร์เอส ตอนนั้น เขาก็ดูดวงของเรา ดูเองเลยว่าดวงเรากำลังมา ก็เรียกนักดนตรีมาเลย เราก็ขอเขาวางงานเองเขาก็ให้ทำเลยเต็มที่เราก็ได้สมหวังและได้ทำตามฝันที่เราอยากจะทำได้เสร็จ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo