Business

‘ช้อปดีมีคืน’ ต้องใช้ ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ทำความรู้จักได้ที่นี่!

ช้อปดีมีคืน ต้องใช้ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ เป็นหลักฐานในการยื่นขอลดหย่อน แล้ว ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ มีรายละเอียดอะไรบ้าง มาดูกัน

หลังจากเปิดให้ใช้สิทธิมาตรการ ช้อปดีมีคืน ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา เชื่อว่า มีหลายคน ไปใช้สิทธิแล้ว และอีกหลายคน มีลิสต์ในใจเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ซึ่งสิ่งสำคัญที่อยากย้ำเตือน คือ การใช้สิทธิลดหย่อนภาษี จากมาตรการ ช้อปดีมีคืน ต้องใช้ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ เป็นหลักฐานประกอบการการยื่นขอลดหย่อนภาษี

ช้อปดีมีคืน ต้องใช้ ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ

เว็บไซต์ peakaccount ผู้ให้บริการโปรแกรมบัญชีออนไลน์ชื่อดัง ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ ไว้ดังนี้

ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ คืออะไร

  • ใบกำกับภาษีเต็มรูป คือ ใบกำกับภาษีที่ผู้ซื้อสามารถนำไปใช้เป็นภาษีซื้อได้ คือ ต้องมีรายละเอียดที่ครบถ้วนตามข้อความสำคัญในใบกำกับภาษี (ม. 86/4) ซึ่งประกอบไปด้วย 7 ส่วน และต้องมีรายละเอียดดังนี้

ใบกำกับภาษี

  • ต้องมีคำว่า “ใบกำกับภาษี” ที่เห็นได้ชัดเจน
  • การแสดงความ “ใบกำกับภาษี” นั้น จะแสดงเป็นใบกำกับภาษี อย่างเดียวก็ได้ หรือ ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี หรือออกพร้อมกับเอกสารอื่น ๆ ก็ได้
  • หากมีการออกเอกสารเป็นชุด มีเอกสารหลายฉบับในชุดเดียวกัน จะต้องมีข้อความว่า “เอกสารออกเป็นชุด” แสดงในใบกำกับภาษี หรือสำเนาใบกำกับภาษีนั้นด้วย
  • หากมีการออกสำเนาของใบกำกับภาษี จะต้องมีคำว่า “สำเนาใบกำกับภาษี” แสดงบนสำเนาใบกำกับภาษีด้วย

ช้อปดีมีคืน ต้องใช้ ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ

  • ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวภาษีอากร สาขา หรือสำนักงานใหญ่ของผู้ที่ออกใบกำกับภาษี (ผู้ขายสินค้า/ให้บริการ) จะต้องเป็นชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวภาษีอากร ตามใบ ภ.พ.20 หรือเอกสารที่รับรองการจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • หากเป็นสำนักงานใหญ่ จะต้องแสดงข้อความว่า “สนญ”, “HQ” หากเป็นสาขา จะต้องแสดงข้อความว่า “สาขาที่…” หรือ “สาขา….” ตามดัวเลขสาขา 5 หลัก เช่น 00001 เป็นต้น

เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลข 13 หลัก) ของผู้รับใบกำกับภาษี มีแนวทางปฏิบัติดังนี้

  • ถ้าผู้รับใบกำกับภาษี (ลูกค้า/ผู้ซื้อ/ผู้รับบริการ) ไม่ใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่ได้จด VAT) ผู้ออกใบกำกับภาษี (ผู้ขาย) ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลเลข 13 หลักของผู้ซื้อก็ได้
  • ถ้าผู้ขาย แจ้งให้กับผู้ซื้อ แล้วว่าต้องการทราบเลข 13 หลักของลูกค้า แต่ลูกค้าไม่ได้แจ้งว่า เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษี หรือ แค่ไม่แจ้งเลข 13 หลักให้ทราบ การที่ผู้ขายไม่ได้ใส่เลข 13 หลักลงไปในใบกำกับภาษี ก็ถือว่าไม่ได้ตั้งใจออกใบกำกับภาษีไม่ถูกต้อง ไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด

cash register 5610295 1280

  • ใบกำกับภาษีที่ไม่มีข้อมูลเลข 13 หลักของผู้ซื้อ ผู้ซื้อไม่สามารถนำใบกำกับภาษีนั้น ไปใช้เป็นภาษีซื้อได้ แม้ว่าจะเป็นผู้ซื้อจะจด VAT ก็ตาม
  • ลูกค้าที่ไม่ใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษี ไม่มีความจำเป็นต้องแจ้งเลข 13 หลักให้กับผู้ซื้อ

หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี

ใบกำกับภาษี จะต้องมีเลขที่ด้วย ถ้าไม่มีเลขที่ จะไม่สามารถนำมาใช้เป็นภาษีซื้อได้ และการออกใบกำกับภาษีที่ไม่มีเลขที่นั้น ผู้ออกใบกำกับภาษี มีความผิดฐานออกใบกำกับภาษีไม่ครบถ้วนด้วย โดยจะมีโทษปรับ 2,000 บาท

 

ชื่อ ชนิด ประเภท และมูลค่าของสินค้า หรือบริการ

  • ต้องมีบอกว่าสินค้า/บริการแต่ละชนิดนั้น เป็นสินค้าที่ต้องเสียภาษี หรือไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • ต้องมีข้อมูลรายการสินค้า/บริการ ในใบกำกับภาษี หมายความว่า ไม่สามารถใช้ใบวางบิล ที่มีแค่ข้อมูลรายการใบแจ้งหนี้ที่รอรับชำระ มาเป็นใบกำกับภาษีได้ เนื่องจากข้อมูลไม่ครบถ้วน
  • จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้า หรือบริการที่แสดงอย่างชัดเจน
  • วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี โดย วัน เดือน ปี ที่แสดง จะต้องเป็นวัน เดือน ปี ที่เกิดจุดรับรู้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนปีที่ใช้ จะเป็น ค.ศ. หรือ พ.ศ. ก็ได้

วิธีในการจัดทำใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป

  • เป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษได้ แต่ถ้าจะเป็นภาษาอื่นต้องขออนุญาตจากกรมสรรพากรก่อน
  • เป็นเงินบาท แต่ถ้าจะเป็นค่าเงินอื่น ต้องขออนุญาตจากกรมสรรพากรก่อน
  • จะต้องมีรายการครบถ้วนทั้ง 7 ข้อตามองค์ประกอบด้านบน
  • ใบกำกับภาษีจะต้องไม่มีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หากมีการแก้ไข ภาษีซื้อจะกลายเป็นภาษีซื้อต้องห้าม

ที่มา : เว็บไซต์ peakaccount

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo