World News

‘ดาวโจนส์’ ร่วงต่อเนื่อง เกาะติดปัญหา ‘โควิด-เศรษฐกิจ’ สหรัฐ

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (27 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดาวโจนส์ ยังร่วงลงอย่างต่อเนื่อง เหตุนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ดูรุนแรงมากขึ้น และการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ระหว่างทำเนียบขาว กับสภาคองเกรส ทั้งยังระมัดระวังตัว ก่อนที่บริษัทรายใหญ่ รวมถึง ไมโครซอฟท์ จะรายงานผลประกอบการ หลังปิดตลาดวันนี้ 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 27,628.24 จุด ลดลง 57.14 จุด หรือ 0.21% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,404.80 จุด ขยับขึ้นมา 3.83 จุด หรือ  0.11% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,452.95 จุด บวก 94.02 จุด หรือ 0.83%

Stocks ๒๐๑๐๐๒

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อวานนี้ (26 ต.ค.) ทำสถิติปรับตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนเป็นต้นมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในสหรัฐและยุโรป รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ

ทำเนียบขาวแถลงในวันนี้ว่า มีแนวโน้มที่รัฐบาลและพรรคเดโมแครตจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

“เรามีความเชื่อมั่นว่าเราจะบรรลุข้อตกลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” นางอลิสซา ฟาราห์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าว

อย่างไรก็ดี คำแถลงของทำเนียบขาวสร้างความกังวลว่าทั้งสองฝ่ายอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.9% ในเดือนกันยายน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%

นอกจากนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนที่แล้ว  สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนสิงหาคม

ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 4.8% ในเดือนก.ค.

ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือนกรกฎาคม โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้ซื้อบ้าน, สต็อกบ้านที่ตึงตัว และอัตราดอกเบี้ยจำนองที่ระดับต่ำ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo