Politics

ตำรวจออกแล้ว 34 หมายเรียก จ่อเอาผิด ม็อบสถานทูตฯ ฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ตำรวจเตรียมดำเนินคดี ม็อบสถานทูตเยอรมนี ขณะที่ออกหมายเรียกฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว 34 หมาย ส่วนวันที่ 29 ตุลาคมนี้ จัดกำลัง 4-6 กองร้อย ดูแลม็อบแยกปทุมวัน เตือน อย่าชุมนุมบนสกายวอล์ค หวั่นรับน้ำหนักไม่ไหว อาจเกิดอุบัติเหตุได้

วันนี้ (27 ต.ค.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ดำเนินคดีกับ ม็อบสถานทูตเยอรมนี ที่มาชุมนุมกันด้านหน้า สถานทูตเยอรมนี เมื่อวานนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากพบการกระทำความผิด ตั้งแต่การรวมตัวกัน ที่บริเวณสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้แจ้งให้ยุติการชุมนุม แต่ยังมีการฝ่าฝืนชุมนุมต่อเนื่องไปจนถึงเคลื่อนขบวนตามถนนพระราม 4 ถึงแยกวิทยุ เข้าถนนสาธรใต้ ถึงหน้าสถานทูตเยอรมนี ซึ่งตำรวจได้บันทึกภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐานแล้ว

ม็อบสถานทูตเยอรมนี

นอกจากนี้ ยังเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ ส่วนความผิดอื่น เช่น การขึ้น เวทีปราศรัย หากพบเข้าข่ายยุยงให้เกิดความวุ่นวาย หรือหมิ่นประมาท ให้ร้ายหรือประทุษร้าย ก็จะเป็นความผิดเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากมีการกระทำความผิดต่อเนื่องกันหลายพื้นที่

ทางด้าน เจ้าหน้าที่ สถานทูตเยอรมนี ไม่ได้มีข้อกังวลอะไร พร้อมขอบคุณการดูแลพื้นที่ของตำรวจที่ดูแลบริเวณดังกล่าว ซึ่งกลุ่มชุมนุมมีเพียงการขัดขวางทางเข้าออก ไม่ได้มีการประทุษร้าย กับเจ้าหน้าที่สถานทูตแต่อย่างใด

ส่วนการดำเนินคดีในภาพรวมกับกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดนั้น มี พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลสำนวนคดีทั้งหมด และมีทีมสืบสวนสอบสวนลงไปช่วย สน.ที่รับผิดชอบ ซึ่งภายหลังการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังมีการดำเนินคดี ทั้งการออกหมายเรียก และการออกหมายจับ ในส่วนของผู้ต้องหาที่อาจมีพฤติการณ์หลบหนีชัดเจน

ส่วนกรณีที่มีการออกหมายเรียก ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งหมด 34 หมายนั้น มีการกระทำผิดเกิดขึ้นแล้ว

สำหรับกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมนัดชุมนุม ที่บริเวณสกายวอล์ค ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ การข่าวยืนยันว่า จะมีการชุมนุมบริเวณดังกล่าวจริง ซึ่งทางตำรวจได้เตรียมการรับมือไว้แล้ว  โดยใช้กำลังจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และ 6 แบ่งพื้นที่ ที่ทำการส่วนหน้า มีผู้บริหารกำลังแต่ละส่วน โดยจะใช้ประมาณ 4-6 กองร้อยต่อ 1 ผลัด เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าว มีพื้นที่ไม่กว้างมาก

บริเวณสกายวอล์ค มีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้าง เพื่อการสัญจรไปมา โครงสร้างอาจรองรับน้ำหนักมากๆ เป็นระยะนานไม่ได้ หากมีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมาก อาจจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างบริเวณดังกล่าว จนเกิดอุบัติเหตุได้

ม็อบสถานทูตเยอรมนี

ทั้งนี้  เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา มวลชนกลุ่มราษฎร เคลื่อนขบวนจากแยกสามย่าน มาถึงบริเวณด้านหน้า สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย โดยมีการการปราศรัยโจมตีรัฐบาล พร้อมชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว โดยส่งตัวแทน 3 คน ประกอบด้วย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผม หรือ น้องมายด์ , นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และ นายวรินท์ แพททริค แม็คเบลน เข้าไปยื่นแถลงการณ์การปฏิรูปสถาบันต่อเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ก่อนที่จะออกมาอ่านแถลงการณ์ต่อมวลชน ทั้ง 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และเยอรมัน

ในเวลา 21.00 น. แกนนำจะประกาศยุติชุมนุม และติดตามข้อเรียกร้อง 4 ข้อ เกี่ยวกับการใช้อำนาจของสถาบัน ที่ยื่นให้เอกอัครราชทูตเยอรมนีตรวจสอบ และรอการนัดหมายชุมนุมอีกครั้ง

ก่อนหน้านั้น  พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น) กล่าวถึงการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ได้จัดกำลังดูแลความเรียบร้อย 4 กองร้อย และบริเวณถนนสาทร ถนนวิทยุ แยกวิทยุ ผลัดละ 5 กองร้อย จำนวน 2 ผลัด เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยตามปกติ รวมทั้งมีการ นำรถบัสขนาดใหญ่ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติหลายคันมาจอดเรียงบล็อกหน้าสถานทูตเยอรมัน พร้อมด้วยแนวรั้วลวดหนามอีกหนึ่งชั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมทั้ง 2 คณะคือกลุ่มประชาชนคนไทย นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และนายพิชิต ไชยมงคลที่รวมตัวมายังสถานทูตเยอรมนีในช่วงเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน และกลุ่มราษฎรที่เคลื่อนขบวนมาในช่วงเย็น ไม่ได้ยื่นขออนุญาตชุมนุมตามกฎหมายที่กำหนดให้ยื่นขอก่อน 24 ชั่วโมง ดังนั้น จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo