แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาประกาศผลประกอบการประจำปีเป็นตัวเลขสถิติใหม่ 590 ล้านปอนด์ (ประมาณ 26,550 ล้านบาท) ขณะที่ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานฝ่ายบริหาร กล่าวว่านี่คือหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงแรงผลักดันของสโมสรสู่การเป็นผู้นำของวงการทั้งในและนอกสนาม
รายได้ประจำปีของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่นับจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา พุ่งขึ้นมาจากเดิมเป็นเพราะรายได้จากส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลงานการคว้ารองแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว
ขณะเดียวกัน รายได้ของสโมสรสำหรับการหาสปอนเซอร์เข้ามาเป็นพันธมิตรก็เพิ่มสูงขึ้นแตะหลัก 276.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,424.5 ล้านบาท)
ทว่ารายได้จากกิจการต่างๆ ในวันแข่งถือว่าลดลงไปอันเป็นผลมาจากการที่แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นในบ้านน้อยลงในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะจอดป้ายเพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ตกรอบถ้วยใหญ่แต่ยังเดินหน้าคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก ได้สำเร็จ
วู้ดเวิร์ดกล่าวว่า “ทุกคนที่สโมสรกำลังทำงานแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อจะเพิ่มจำนวนแชมป์ 66 รายการของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ 25 รายการของ โชเซ่ (มูรินโญ่) นั่นเป็นสิ่งที่แฟนบอลผู้หลงใหลและประวัติศาสตร์ของเราเรียกร้อง”
“เรายึดมั่นกับปรัชญาของเราในการผสมผสานดาวรุ่งระดับท็อปจากศูนย์ฝึกเยาวชนเข้ากับนักเตะระดับโลกและเป็นอีกครั้งที่เราภูมิใจกับการที่เรามีนักเตะจากศูนย์ฝึกเยาวชนลงสนามในพรีเมียร์ลีกมากกว่าทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีก”
“ความคาดหวังต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีแสดงให้เห็นผลงานด้านการเงินระยะยาวอันแข็งแกร่งและต่อเนื่องของเราซึ่งมันเป็นรากฐานของทุกสิ่งที่เราทำและเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้เพื่อเซ็นสัญญากับนักเตะพรสวรรค์ระดับท็อปในตลาดนักเตะที่มีการแข่งขันสูงขึ้นไปเรื่อยๆ”
