ข้อกังขาที่เพิ่มมากขึ้นต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานทางการค้า “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน ผลักดันให้สหภาพยุโรป (อียู) เปิดนโยบายเอเชียฉบับใหม่ ที่ระบุว่า เป็นแผนทางเลือกสำหรับเอเชีย ที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศต่างๆ ด้วยภาระหนี้ที่จ่ายคืนไม่ได้
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป และเอเชีย ในเดือนพฤศจิกายนนั้น ประเทศสมาชิกอียู จะลงนามใน “กลยุทธ์เชื่อมต่อเอเชีย” ฉบับใหม่ ที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการเชื่อมโยงทางด้านการขนส่ง ดิจิทัล และพลังงาน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมมาตรฐานด้านแรงงาน และสิ่งแวดล้อม
อียูยืนยันว่า กลยุทธ์ใหม่ดังกล่าวไม่ได้มีขึ้นเพื่อตอบโต้กับผู้เล่นรายอื่น แม้การเปิดตัวนโยบายนี้จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โครงการริเริ่มเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน จะลดความรุ่งเรืองลงมา
เฟเดอริกา โมเกอรินิ ผู้แทนใหญ่อียูด้านกิจการต่างประเทศ และนโยบายความมั่นคง กล่าวว่า มีการเจรจากันมานานหลายเดือนแล้วกับประเทศเอเชียจำนวนหนึ่ง ที่ให้ความสนใจพิจารณาวิธีแบบยุโรป
“การริเริ่มของเราจะมีเป้าหมายอยู่ที่การสร้างงาน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงประโยชน์สำหรับชุมชนท้องถิ่น ดิฉันจะไม่พูดว่า นโยบายของเราแตกต่างจากข้อเสนอของคนอื่นๆ แต่นี่ก็คือข้อเสนอของเรา”
กลยุทธ์ใหม่ข้างต้นยังเกิดขึ้น หลังจากที่ฌอง คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เรียกร้องให้อียูดำเนินนโยบายต่างประเทศแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่กลุ่มกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงนโยบาย “อเมริกันมาก่อน” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐเท่านั้น แต่รวมถึง การเคลื่อนไหวในเชิงรุกของจีนต่อแอฟริกา และเอเชียด้วย
